ใช้ข่าวจาก forexfactory.com

ใช้ข่าวจาก forexfactory.com

ใช้ข่าวจาก forexfactory.com

               Forexfactory น่าจะเห็นเว็บข่าวที่นิยมใช้ดูข่าวมากที่สุดเว็บหนึ่ง เพราะได้รวบรวมที่เป็นพวก fundatmental news ไว้ทั้งหมดมีอัพเดทและมีคำอธิบาย  หลักๆ เทรดเดอร์ก็จะใช้ข่าวพื่ออ้างอิงการเทรดข่าวหรือสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการมุ่งที่จะเป็นเทรดแบบ technical analysis ล้วน ๆ  ก็จะออกก่อนหรือเฮด positions เพราะเมื่อมีข่าวแรงๆ เรื่อง volatility ก็จะเกิดขึ้นมาก เช่น วิ่งแรงขึ้น-ลงไปมาแรงๆ หรือ volatility spike ก็เกิดประจำตอนข่าว

               ดูอย่างวันศุกร์ Apr 19 2019  จะเห็นชัดว่าเรื่องวันหยุดหรือ Bank Holiday มีผลต่อ volality ในตลาดเยอะมาก เมื่อเจอแบบนี้สิ่งแรกที่ควรจะทำคืออย่าพยายามหาโอกาสเปิดออเดอร์เพิ่ม ถ้าเป็น positions ที่เปิดอยู่แล้วให้ถือรอ อาจเกิดต้นทุนเรื่องค่า swap แต่ถ้าท่านเทรดแบบเก็บบีบจากเทรนไม่ได้เทรดแบบ scalping ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหนักใจ ถ้าไม่ได้โอเวอร์เทรดหรือถือ positions มากไป สิ่งสำคัญในการเทรดคือ volatility

               การนำเสนอ ข่าวของ forexactory ค่อยข้างจะง่ายและชัดเจน แทบไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เซ็ตเรื่อง timezone ที่ด้านบนมุมขวา เพื่อจะได้ปรับเวลาเข้ากับเวลาคอมที่เราตั้ง เช่น เข้ากับเวลาบ้านเรา

               ท่านเปิด forexfactory มาหลังจาก ตั้งเรื่องเวลา บราวเซอร์ก็จะจำค่าที่ท่านกำหนดไว้พอเปิดมาก็จะเป็นหน้าที่มีข่าววันนั้นพอดีและเวลาก็เป็นเวลาบ้านเรา แต่ละข่าวก็จะบอก Currency ค่าเงินที่ข่าวจะมีผลกระทบ Impact จะแบ่งออกเป็น 3 สี มีเหลือง (Low Impact Expected มีผลกระทบน้อย) ส้ม (Medium Impact Expected มีผลกระทบปานกลาง) และแดง (High Impact Expected มีผลกระทบแรง)

ก็จะมีส่วนที่เป็น Detail รายละเอียดเกี่ยวกับข่าว เมื่อท่านคลิกที่ ไอคอน Detail จะเห็นข้อมูลต่างๆ และว่าทำไมเทรดเดอร์จึงมักสนใจ และตามด้วยส่วนที่เป็นข้อมูลจริงและส่วนที่เป็นข้อมูลคาดการณ์กันก่อนข้อมูลจริงจะออกมา

ชาร์ตแรกจาก forexfactory และชาร์ตจาก Metatrader ดูข่าว NZD วันที่ 17 เมษายน เวลาตี 5.45 ข่าว CPI q/q สีแดงบอกมีผลกระทบอย่างแรงต่อค่าเงินนั้นๆ คือ NZD วิ่งประมาณ 100 บีบได้ เนึ่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากข่าวแรงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือท่านจะเห็นเรื่อง liquidity แรงๆ เป็นประจำ จะเห็นเป็นบาร์ยาวๆ เด้งขึ้นหรือลงก่อน เพราะต้องการ stop hunt ก่อนที่จะไปทางใดทางหนึ่งจริงจัง หรืออาจกลับมาแถวๆ เดิม

               สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นข้อดีของข่าวคือราคาค่อนข้างจะวิ่งดีและเร็วจากที่รอนานๆ ถ้าไม่ใช่ช่วงมีข่าว ด้วยเหตุผลด้าน volatility ที่เกิดขึ้นเยอะตอนข่าวเมื่อมอง price levels เป็นว่าจะเป็น support/resistance, supply/demand หรืออื่นๆ เข้าใจหลักการออเดอร์ทำงานที่จุดพวกนี้จะเห็นตัวดึงดูด เข้าในเรื่อง trapped traders จะทำให้ท่านสามารถเทรดแบบไม่ต้องรอนาน ปกติ ถ้าเป็นช่วงตลาดแต่ละตลาดเปิด เช่น ช่วงตลาดยุโรป และอเมริกา ถ้าไม่มี Bank Holidays ตลาดก็จะเริ่มวิ่งดี แต่ถ้ามีข่าว เช่นสีส้ม (ข่าวมีผลกระทบปานกลาง) หรือสีแดง (ข่าวมีผลกระทบแรง) มักจะทำให้ราคาไปถึงจุด price level พวกนี้ได้เร็วเปิดโอกาสให้เข้าเทรดได้และผลโต้ตอบค่อนข้างจะเร็วด้วย

               ดูชาร์ตนี้จาก forexfactory เนื่องจากเรื่องข่าวมีผลต่อ volatility ที่เกิดขึ้นในตลาดตอนที่มีข่าว เพราะมีแต่เทรดเดอร์อยากเข้าเทรดหรืออยากออกหรืออยากจัดการออเดอร์ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีข่าวปานกลางหรือแรงๆ ขึ้น จะเห็นว่ามีราคาสร้างจุดอ้างอิงหรือ support/resistance, demand/supply ด้วยการยืนยันการวิ่งจากไปแรงๆ และราคาวิ่งกลับหา suport/resistance, demand/supply ที่เกิดขึ้นก่อนนี้ กลับไปหาอย่างรวดเร็ว เปิดโอกาสที่จุดพวกนี้เกิดขึ้นแบบไม่ต้องรอนาน นี่เลยบอกว่าเมื่อมีข่าวแรงมักจะเห็นว่าช่วยลดเวลารอ หรือเร่งราคาไปให้ถึงจุดที่ต้องการเทรดได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุที่เรื่อง volatility เกิดขึ้นเยอะช่วงข่าว จึงมีกลยุทธ์การเทรดช่วงข่าวหรือพยายามเอาชนะจากการวิ่งช่วงข่าวเยอะ

               เมื่อท่านเข้าใจตลาดและหลักการออเดอร์ทำงาน ท่านจะพบว่าไม่ว่าตอนไหนของหลักการทำงาน แค่ว่าช่วงข่าวมี volatility เยอะ มีเทรดเดอร์ต่างๆ เข้าและออกตลาดจำนวนมาก ก็เลยทำให้เกิด Imbalance หรือความไม่สมดุลย์ขึ้นมาเลยมักจะเห็นร่องร่อยการเข้าเทรดของขาใหญ่ได้บ่อย เพราะเป็นช่วงที่มีออเดอร์ตรงข้ามเยอะ หรือถ้าเป็นการเข้าเทรดที่จุดเดิมก็มักจะมีข่าวเป็นตัวช่วยเร่งราคาไปหาจุดที่พวกขาใหญ่ต้องการ   อย่างตอนแรกที่ยกมาจะเห็นว่าเป็นช่วง Bank Holidays เมื่อดูชาร์ตจะเห็นว่าแทบไม่วิ่งไปไหน sideway เป็นหลัก ทำให้ยากต่อหาความเป็นไปได้ แต่ถ้าเทรดเดอร์ใหม่รู้ไม่ทันข้อมูลพวกนี้ คิดว่าตลาดฟอเรกเปิดให้เทรด 24 ชั่วโมง 5 วันได้ การเปิดเทรดเป็นแบบ scalping บ้างหรือเทรดในกรอบราคาแคบๆ หวังเพียงไม่กี่บีบ เมื่อท่านดูชาร์ตประกอบท่านจะพบว่านานกว่าราคาจะมาทางใดทางหนึ่งมากพอที่จะทำกำไร ซึ่งจริงๆ ไม่คุ้มค่าที่เปิดเสี่ยง เพราะท่านต้องเสียค่าคอมมิสชั่น ค่าส่วนต่างสเปรด ถ้าถือข้ามวันมีค่า swap อีก ที่เป็นต้นทุนที่ท่านต้องแบกคนเดียว ไม่ใช่โบรกเกอร์ ขณะที่ความเป็นไปได้น้อยเพราะราคาไม่ค่อยวิ่ง แต่โบรกเกอร์ต้องการให้เทรดเพราะโบรกเกอร์ไม่สนว่าจะมี volatility มากพอสำหรับคู่เงินนั้นๆ หรือไม่ ขอให้ลูกค้าเปิดเทรดเป็นพอพวกเขาก็จะมีรายได้

ทีมงาน : thaiforexbroker.com