ในโลกของการเทรด Forex เคยสงสัยเวลาเจอคู่เงินแบบ USD/JPY, EUR/USD พวกนี้มันหมายความว่ายังไง? จริงๆ แล้ว คู่เงินพวกนี้ มันมีสกุลเงิน “ตัวเอก” ซ่อนอยู่ เขาเรียกกันว่า “Base Currency” มันคืออะไร? ความสำคัญในการวิเคราะห์และตัดสินใจเทรดหรือไม่? ใครที่กำลังคิดจะเป็นเทรดเดอร์ต้องรู้จักคำพวกนี้และความหมายความสำคัญของมัน ซึ่งในบทความนี้มีคำตอบให้คุณครบแน่นอน
ฉบับย่อโดย Thaiforexbroker.com
- Base Currency คือ สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน (Currency Pair) ซึ่งใช้เป็นตัวตั้งในการเทียบค่ากับสกุลเงินที่สอง (Quote Currency) เพื่อดูว่าต้องใช้ Quote Currency เท่าไหร่ในการแลก Base Currency มา 1 หน่วย
- Base Currency มีความสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ทั้งในด้านปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) และปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis)
- กลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ประโยชน์จาก Base Currency คือ Carry Trade ซึ่งเป็นการยืมเงินในสกุลเงินอัตราดอกเบี้ยต่ำ ไปซื้อสกุลเงินอัตราดอกเบี้ยสูง เพื่อหวังผลกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย
ทำความเข้าใจ Base Currency Pair
- ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (forex) ราคาของหน่วยสกุลเงินจะถูกเสนอเป็นคู่เงิน ซึ่ง Base Currency คือสกุลเงินแรกที่ปรากฏในคู่เงิน เช่น
- EUR/USD ยูโร (EUR) ก็คือ Base Currency นั่นเองส่วนดอลลาร์ (USD ก็คือ Quote Currency
- ทำไมต้องมี Base Currency ด้วยล่ะ? คู่เงินนี้แสดงให้เห็นว่าคุณต้องใช้ Quote Currency เท่าไหร่ ถึงจะแลกเงิน Base Currency มา 1 หน่วย
- และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า สกุลเงิน USD เป็นหนึ่งใน Base Currency ที่พบบ่อยที่สุดในตลาด Forex
ความสัมพันธ์ระหว่าง Base Currency และ Quote Currency
- Base Currency คือตัวตั้ง Quote Currency คือตัวตามเสมอ เหมือนกับเวลาเราดูราคาสินค้า Base Currency ก็คือ “สินค้า” ส่วน Quote Currency ก็คือ “ราคา” ที่เราต้องจ่ายเพื่อให้ได้สินค้านั้นมา
- ราคาของคู่เงิน บอกถึง “อัตราแลกเปลี่ยน” ระหว่าง Base Currency และ Quote Currency ยกตัวอย่างเช่น
- คู่เงิน EUR/USD มีราคาอยู่ที่ 1.07 หมายความว่า เราต้องจ่ายเงินดอลลาร์สหรัฐ 1.07 ดอลลาร์ เพื่อแลกเงินยูโร 1 ยูโร
- เมื่อราคาคู่เงิน “สูงขึ้น” หมายความว่า Base Currency มีค่า “แข็งค่าขึ้น” เมื่อเทียบกับ Quote Currency นั่นคือ เราต้องใช้ Quote Currency มากขึ้น เพื่อแลก Base Currency ในปริมาณเท่าเดิม
- ในทางกลับกัน เมื่อราคาคู่เงิน “ลดลง” หมายความว่า Base Currency มีค่า “อ่อนค่าลง” เมื่อเทียบกับ Quote Currency นั่นคือ เราต้องใช้ Quote Currency น้อยลง เพื่อแลก Base Currency ในปริมาณเท่าเดิม
ประเภทของคู่เงินในตลาด Forex
โอเค ในเมื่อเรารู้จักกับ Base Currency กันไปแล้ว แต่รู้ไหมว่าสกุลเงินในตลาด Forex นั้นมีมากกว่า 1 ประเภทแน่นอน มาดูกันดีกว่าว่าสกุลเงินแต่ละประเภทเขาแบ่งกันยังไง ใช้เกณฑ์อะไรในการแบ่ง?
คู่เงินหลัก (Major Currency Pairs)
- คู่เงินหลัก คือ คู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในตลาด Forex ซึ่งมักจะมีสภาพคล่อง โดยคู่เงินหลักส่วนใหญ่ มักจะมีดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นหนึ่งในสกุลเงินในคู่นั้น ไม่ว่าจะ Base หรือ Quote ก็ตาม
- ตัวอย่างคู่เงินหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด ส่วนคู่เงินหลักอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่
- USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
- GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส)
- AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)
- AUD/USD และ USD/CAD มักถูกเรียกว่า “Commodity Currencies” เนื่องจากทั้งสองประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศได้รับอิทธิพลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์
คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs)
- คู่เงินรอง คือ คู่สกุลเงินหลักที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐ (USD) รวมอยู่ด้วย มักจะเป็นการจับคู่กันระหว่างสกุลเงินหลักด้วยกันเอง เช่น
- EUR/JPY คู่เงินยอดนิยม ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยุโรป และญี่ปุ่น
- GBP/JPY คู่เงินที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทั้งปอนด์และเยน เป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนสูง จึงมีโอกาสในการทำกำไร
- EUR/GBP คู่เงินนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร
- แม้ว่าคู่เงินประเภทนี้ สภาพคล่องอาจจะน้อยกว่าคู่เงินหลักแต่ก็ยังถือว่ามีสภาพคล่องเพียงพอและมีปริมาณการซื้อขายในระดับที่สูง
คู่เงินแปลกใหม่ (Exotic Currency Pairs)
- คู่เงินแปลกใหม่ คือ คู่สกุลเงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินหลัก 1 สกุล จับคู่กับสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนา 1 สกุล เช่น
- USD/MXN (ดอลลาร์สหรัฐ/เปโซเม็กซิโก)
- EUR/TRY (ยูโร/ลีราตุรกี)
- GBP/ZAR (ปอนด์อังกฤษ/แรนด์แอฟริกาใต้)
- คู่เงินประเภทนี้มักจะมีสภาพคล่องต่ำและมีส่วนต่างราคาซื้อขาย (Spread) ที่กว้างกว่าคู่เงินหลักและคู่เงินรอง ทำให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ไม่นิยมซื้อขายคู่เงินประเภทนี้
ความสำคัญของ Base Currency Pair ในการเทรด Forex
Base Currency Pair ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณืที่เทรดเดอร์เอาไว้ดูว่ากำลังเทรดคู่เงินไหนเพียงแค่นั้น มันบ่งบอกถึงการวิเคราะห์คู่เงินได้อีกด้วย ซึ่ง การใช้ Base Currency ในการเทรด Forex นั้น น่าสนใจมาก ดังนี้
การใช้ Base Currency เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาด
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
ปัจจัยพื้นฐาน คือ ข้อมูลเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมที่ส่งผลต่อราคาของสกุลเงิน ซึ่ง Base Currency สามารถใช้เป็นตัวชี้วัด ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้ ดังนี้
- เศรษฐกิจของประเทศที่เป็น Base Currency มีผลโดยตรงต่อค่าเงิน เช่น หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง USD ก็มีแนวโน้มแข็งค่า ส่งผลให้คู่เงินที่มี USD เป็น Base Currency เช่น USD/JPY มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
- ข่าวสารสำคัญๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ GDP ล้วนส่งผลต่อค่าเงิน โดยเทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญกับข่าวสารของประเทศที่ออก Base Currency เป็นพิเศษ
- เสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายของรัฐบาล ก็มีผลต่อค่าเงินเช่นกัน Base Currency ของประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมือง มักจะเป็นที่ต้องการของนักลงทุน
วิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis) กับ Base Currency
การวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ การใช้เครื่องมือ เช่น Chart, Indicators และ Price Patterns เพื่อศึกษาพฤติกรรมราคาในอดีต และคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตโดยที่ Base Currency จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการวิเคราะห์ ดังนี้
- การดู Chart ของคู่เงิน เช่น EUR/USD จะช่วยให้เห็นภาพรวมของแนวโน้มราคาและความผันผวนของ EUR เทียบกับ USD
- Indicators เช่น Moving Average, RSI, MACD สามารถใช้วิเคราะห์ Base Currency Pair เพื่อหาสัญญาณซื้อขายและแนวโน้มราคา เช่น
- หาก RSI ของ Base Currency Pair เช่น GBP/JPY สูงกว่า 70 อาจบ่งชี้ว่า GBP แข็งค่า “มากเกินไป” เทียบกับ JPY และอาจมีการปรับฐานลงมา
- ในส่วนของการวิเคราะห์ลักษณะนี้จะใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อยืนยันทิศทางให้แม่นยำมากขึ้น โดยอาจจะใช้ Base Currency เป็นตัวตั้งเพื่อประเมินว่าแนวโน้มจะไปในทิศทางใด
กลยุทธ์การเทรดด้วย Base Currency
การเทรด Forex ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่เทรดเดอร์ต้องมี “กลยุทธ์ ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเอาชนะตลาดและสร้างผลกำไรได้ และวันนี้ ผมจะพาไปรู้จักกับ “Carry Trade” กลยุทธ์ Forex ที่ใช้ประโยชน์จาก Base Currency ในการทำกำไร
- Carry Trade คือ การ “ยืมเงิน” ในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปซื้อในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง โดยหวังผลกำไรจาก “ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย” เปรียบเหมือนการ “กู้เงินดอกเบี้ยถูก ไปฝากเงินดอกเบี้ยแพง” นั่นเอง
- ในตลาด Forex ก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่แทนที่จะกู้ยืมเงินจริงๆ เราจะใช้การ “ซื้อขายคู่สกุลเงิน” แทน เช่น ถ้าเราคาดว่าดอกเบี้ยของเงินดอลลาร์จะสูงกว่าเงินเยน เราก็จะ “ซื้อ (BUY)” คู่เงิน USD/JPY
- ใน Carry Trade นั้น เราจะพิจารณาซื้อ Base Currency ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งเราจะถือครองไว้เพื่อรับดอกเบี้ย โดยกลไกการทำงานเป็นแบบนี้
- เมื่อเราซื้อ USD/JPY หมายความว่าเราคาดหวังว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในขณะเดียวกัน เราก็กำลัง “ยืม” เงินเยนโดยอัตโนมัติ เพื่อนำไป “ซื้อ” เงินดอลลาร์ ตามหลัก Quote ซื้อ Base Currency ที่กล่าวไปตอนต้น
- หากเราถือสถานะซื้อ USD/JPY ข้ามคืน โบรกเกอร์จะทำการ “Rollover” สัญญา โดยจะปิดสถานะเดิม และเปิดสถานะใหม่ในราคาปัจจุบัน พร้อมกับคิดค่าธรรมเนียม “Swap” ซึ่งเป็นส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่าง USD และ JPY
- เนื่องจาก USD มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า JPY เราจะได้รับ Swap เป็นบวก ซึ่งก็คือกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย นั่นเอง
- ข้อสังเกตที่มักเห็นบ่อยๆ คือ บัญชีอิสลามของโบรกเกอร์ Forex จะเป็นแบบ Free Swap ก็คือไม่มีส่วนของดอกเบี้ยในการซื้อขายเพราะเป็นที่ต้องห้ามตามหลักศาสนา
วิธีเลือก Base Currency ให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยง
การเทรด Forex ของเทรดเดอร์แต่ละคนนั้น เชื่อว่ามีเป้าหมายที่แกต่างกัน ซึ่งในวันนี้การมี Base Currency เป็นปัจจัยในการพิจารณานั้น ย่อมทำให้การตั้งเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยงมีความน่าสนใจมากขึ้น
การกำหนดเป้าหมายการเทรดโดยอิงจาก Base Currency
- หากเทรดเดอร์ต้องการ “เก็งกำไร” ระยะสั้น อาจเลือก Base Currency ที่มีความผันผวนสูง เช่น JPY หรือ GBP ซึ่งมีโอกาสทำกำไร (และขาดทุน) ได้เร็ว
- แต่หากต้องการ “ลงทุน” ระยะยาว อาจเลือก Base Currency ที่มีความแข็งแกร่ง เช่น USD หรือ EUR ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่าและมีโอกาสทำกำไรในระยะยาว
- การใช้กลยุทธ์ Carry Trade อย่างกล่าวไปก่อนหน้า ก้เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายการเทรดสำหรับความต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income
ประเมินระดับความเสี่ยงจาก Base Currency
- ถ้าใครรับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือก Base Currency ที่ผันผวนสูง เช่น สกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีโอกาสทำกำไรสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
- ถ้ารับความเสี่ยงได้ต่ำควรเลือก Base Currency ที่มั่นคงสูง เช่น CHF ซึ่งมีความผันผวนต่ำ
วิดีโอที่เกี่ยวกับ Base Currency
ก่อนจากกันไปทีมงานของเราไปเจอวิดีโอตัวหนึ่งใน YouTube ที่มีเนื้อหาอธิบายเกี่ยวกับ Base Currency และ Quote Currency คืออะไร? โดยเนื้อหาจะเจาะลึกและอธิบายแบบเห็นภาพชัดเจน โดยเนื้อหาจะเปรียบเทียบและยกตัวอย่างเพื่อเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นสำหรับการเทรด Forex
- Focus นาทีที่ 00:21 ทําความเข้าใจสกุลเงินหลัก (Base Currency)
- Focus นาทีที่ 00:34 ทําความเข้าใจสกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency)
- Focus นาทีที่ 00:55 ค่าเงินอ้างอิงจะบอกอะไรเรา?
สรุป
Base Currency Pair ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณืในแพลตฟอร์มการเทรด Forex เท่านั้น มันคือสกุลเงินตัวแรกในคู่สกุลเงินที่เราใช้เทรดกันและมีความหมาย มีความสัมพันธ์กับสกุลเงินอีกหนึ่งตัวที่เรียกว่าสกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency) การที่เทรดเดอร์จะเทรดคู่เงินหนึ่งได้ต้องเข้าใจกลไกการทำงานของคู่เงินอย่างละเอียดว่า ตัวเลขราคาที่เราเห็นเกิดจากจำนวนที่สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency) ใช้ซื้อสกุลเงินหลัก (Base Currency) จำนวน 1 หน่วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของประเภทคู่เงินในตลาด Forex รวมไปถึงความสำคัญของ Base Currency ในการเทรด Forex เช่น กลยุทธ์ที่มี Base Currency เป็นหลักในการใช้ทำกำไร ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เทรดเดอร์โดยเฉพาะมือใหม่ ได้เข้าใจ Forex และคู่เงินได้ลึกซึ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงราคาคู่เงินจะทำให้เรารู้ได้ว่าตอนนี้สกุลเงินไหนที่กำลังอ่อนหรือแข็งค่าอยู่ เพื่อนำไปวิเคราะห์แนวโน้มต่อไป