เทรด Forex โบรก ไหนดี ?
เรื่องนี้จริงๆแล้ว ต้องแล้วแต่ว่าเราจะเลือกการเทรดลักษณะไหน(Live Style) ครับ คุณชอบเทรดสั้น เทรดยาว เทรด EA ซึ่งคุณก็ต้องรู้ด้วยว่า EA ประเภทไหน ต้องรู้จักการประสานเป็นหนึ่งกับเทคนิคของคุณกับ EA ที่คุณเลือกนั้นๆ คุณต้องรู้ตัวเองว่าไสตล์การเทรดชอบแบบไหนกันแน่ แล้วฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ ชอบเทรดสั้นสองสามจุดปิด(scalping) หรือแบบซื้อออเดอร์สวนทางกัน อันไหนบวกก่อนก็ปิด(hedging ) หรือแบบเบิลล็อต(grid) หรือประเภทเปรียบเทียบราคากับตลาดอื่นๆ(arbitrage) เราต้องรู้ก่อนว่าเราเทรดแบบไหน จากนั้นก็ค่อยไปดูว่า โบรกเกอร์ไหนอนุญาตให้เราเทรดแบบที่ต้องการบ้าง
- ถ้าเทรดยาวเราแทบไม่ต้องสนใจเรื่องสเปรดเลย แต่ทั้งนี้สเปรดของคู่เงินที่เราเทรดบ่อยๆ หรือคู่เงินหลัก ไม่ควรเกิน 2 จุด หรือ 20$/10,000 เช่น E/U G/U E/J ถ้าแบบนี้ถือว่ารับได้
- แต่ถ้าเทรดสั้น สเปรดไม่ควรเกิน 1 จุด หรือ 10$/10,000 เพราะคนที่เทรดสั้น วันๆหนึ่งเทรดเป็นสิบๆออเดอร์ ถ้าสเปรดแพงเราเสียหายครับ แต่โบรกเกอร์เขาได้กำไรบาน
- นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึง ช่องทางการฝากถอน ว่าเราสามารถฝากถอนได้ทางไหนได้บ้าง สะดวกทางไหนบ้าง บางคนยังต้องคำนึงถึงช่องว่างด้านภาษา โบรกที่มีซับพอร์ทภาษาไทยก็มีหลายโบรกครับ เลือกดูในเว็บได้เลย
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือก broker forex
1.ค่าของ Spread : Spread ไม่สูงจนเกินไป และยืดหยุ่นเหมาะกับระบบเทรดสั้นด้วย
เมื่อเราเริ่มมีความชำนาญแล้ว ค่า Spread ที่ต่ำๆนั้นจะได้เปรียบมากๆ เวลาเราเทรด กล่าวคือเราจะลดโอกาสในการขาดทุนลงได้มากๆครับ สำหรับมือใหม่นั้นมักมาขาดทุนกันส่วนใหญ่ตรงค่า Spread นี่ละครับ ดังนั้นควรเลือก broker forex ที่มีค่า Spread ต่ำๆ ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดี
2.ค่าธรรมเนียม : เพื่อความมั่นใจในตัวโบรคเกอร์ว่า จะไม่เอาเปรียบเราแบบตรงๆไปหน่อย
broker forex ที่ดีนั้นจะต้องมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากๆ หรือไม่เก็บเลยโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมอย่าง ค่าธรรมเนียมโอน หรือการฝากและการถอนเงินเป็นต้น ซึ่งตัวนี้นั้นถือเป็นอีกตัวหนึ่งที่ทำให้การทำกำไรของเรานั้นลดลงอย่างมากครับ
3.พิจารณาเรื่องของ MT4 : การใช้โปรแกรมเทรด ความเสถียรในเรื่องของระบบ
broker forex มักมีการใช้โปรแกรมเทรดที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ร่วมกับตัว Device ต่างๆได้ เช่น เทรดผ่าน Ipad หรือการเทรดผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ยิ่งมีช่องทางในการเข้าถึงการเทรดได้มากเท่าไหร่ โอกาสในการทำกำไรของคุณก็จะมีมากขึ้นเท่านั้นครับ
4.ความเป็นมืออาชีพด้านการแก้ปัญหา : มี Support ที่ดี มีปัญหาก็มีช่องทางให้ถามได้ทันที และแน่นอน..ต้องตอบทันทีด้วย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรานั้น สามารถแบ่งแยกในเรื่องของความเป็นมืออาชีพของ broker forex นั่นคือเมื่อเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณขึ้นมานั้น บรรดาโบรกต่างๆมีวิธีการในการแก้ปัญหาของคุณอย่างไร ตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องของเงินที่ไม่เข้าบัญชี ปัญหาที่คุณทำกำไรแต่ยอดเงินไม่เข้าไปในบัญชี อย่างนี้เป็นต้นครับ
5.รางวัล(Bonus) จูงใจ :
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการตรวจสอบในเรื่องของรางวัลจูงใจ ซึ่งเป็นการการันตีในส่วนของคุณภาพ และการใส่ใจในการให้บริการ จุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นการตอกย้ำในเรื่องของ broker forex ที่ดี ที่ทำให้เราได้มีความมั่นใจในเรื่องของการเทรดมากยิ่งขึ้นครับ สำหรับผู้เขียนแล้วมองเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญทีเดียว เพื่อใช้แบ่งระหว่างโบรกเกอร์ธรรมดา กับโบรกเกอร์มืออาชีพ
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง การมี Bonus หรือการแจกเงินให้เทรดฟรีๆ แต่มีเงื่อนไขอันซับซ้อนหรือยากเกินไป เช่น เราต้องเทรดให้ได้ตามจำนวน Lot ที่ทาง Broker ได้กำหนดไว้ก่อน ถ้าเทรดได้ครบแล้วถึงจะได้เงินในส่วนนี้ ถ้ามันดูไม่คุ้มค่า อาจจะพิจารณาเป็นจุดด้อยไปเลย ซึ่งการพิจารณาตรงนี้ควรจะพิจารณาเปรียบเทียบกับโบรกอื่นๆที่มี Bonus คล้ายๆกันด้วย
6.โปรโมชั่นจูงใจ
broker forex ที่ดีต้องมีการจัดโปรโมชั่นจูงใจในการเทรดให้กับเราที่ดี เพื่อให้เรานั้นสามารถสร้างแรงจูงใจเพื่อการเทรดได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นรางวัลของคนที่มีความพยายามในการเทรด หรือคนที่ชื่นชอบการล่ารางวัลด้วยนะครับ broker forex ที่ดีน่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าตรงจุดนี้ด้วย
7.การฝากถอนที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว : ไม่โอ้เอ้ ไม่ดูตุกติก หรือจุกจิก
นั่นมันหมายถึงคุณสามารถบริหารการเงินได้คล่องมือยิ่งขึ้น หากเปรียบเทียบกับโบรกอื่นๆแล้วโบรกไหนที่เบิกถอนได้ช้า หรือมีเงื่อนไขอันมากมาย ก็อย่าเสียเวลาใช้บริการครับ เงินของเราคือเงินที่ควรจะอยู่ในการบริหารของเราได้อย่างแท้จริง ส่วนในเรื่องธนาคาร สำหรับผม ผมเน้นระบบ E-banking ของธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ และกรุงไทยครับ
ข้อคิดทิ้งท้าย
ทิ้งท้ายอีกนิดคือ โบรกเกอร์ที่ไม่มีใบรับรองจากองค์กรสากล หรือจากประเทศนั้นๆ ให้หลีกเลี่ยงไปเลยครับ ยังมีโบรกเกอร์อีกมากมายให้เลือกอีกเยอะ ใบรับรองจากองค์กรสากลที่กำกับดูแลในแต่ละประเทศ เช่น FSC ,CySEC , MiFID, FSA,FCM, CFTC, RFED, NFA, SFC, ASIC, FSA/ACP, CONSOB ถ้ามีปัญหาอะไรเราสามารถร้องเรียนเพื่อเรียกเงินกลับได้ครับ ถ้าเราไม่ผิดจริงนะ
มีหลายคนเสียเวลาเลือกโบรคเกอร์ แต่สุดท้ายก็เลือกผิด เพราะมองข้ามในหลายๆประเด็นข้างต้นกลับไปมองแต่สิ่งที่โบรกเอามาล่อใจเสียอย่างเดียว เช่น Bonus ซึ่งสุดท้ายก็มาเซ็งเป็ด เพราะโบนัสที่ให้มามีเงื่อนไขในการถอนมากมาย ไม่ตรงไปตรงมา ไหนจะเรื่องการถอนที่ช้าจนเราอึดอัด แล้วยังมีเรื่อง Spread ที่แพงโอเวอร์อีกครับ ดังนั้นด้วยเหตุนี้เอง ทีมงาน thaiforexbroker.com จึงอาสาเป็นคนคอยดูแลข้อมูลในส่วนนี้ ให้คุณได้เทรดได้อย่างสบายใจ ลองหาไสตล์การเทรดของคุณเอง แล้วลองอ่านข้อมูลในเว็บนี้และตัดสินใจสมัครลองใช้สักสามโบรกดูครับ ดีไม่ดีอย่างไรต้องลองเทรดเปรียบเทียบดูอีกที ดีที่สุดที่เรารีวิวอาจไม่ใช่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะไสตล์ใครสไตล์มันเหมือนการเลือกรถยนต์ครับ บางทีก็แล้วแต่คนชอบ จนบางทีก็ว่าโฉลกใครโฉลกมันด้วย… ^_^
ทีมงาน : thaiforexbroker.com