เทรด USDJPY ด้วย correlation ระหว่าง Dollar Index และ Yen Index

เทรด USDJPY ด้วย correlation ระหว่าง Dollar Index และ Yen Index

เทรด USDJPY ด้วย correlation ระหว่าง Dollar Index และ Yen Index

                เนื่องจากUSDJPYเกี่ยวข้องกับค่าเงินUSDและJPYสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาคือสิ่งที่กระทบต่อค่าเงิน USD และ JPY ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่แรงๆตัวเลขทางเศรษฐกิจเช่นข่าวNon-Farm Employment Changeหรือเหตุการณ์ทางการเมืองของUSDล้วนส่งผลกระทบหมดและเรื่องของช่วงตลาดที่ทำให้เกิดvolatilityแต่ละช่วงล้วนมีผลต่อการเทรดทั้งหมด แต่วิธีการเทรดจะดูง่ายและได้ผลดีขึ้นด้วยการใช้ correlationระหว่างDollar IndexและYen Index

USDJPY และช่วงตลาด

                ก่อนที่จะไปเรื่องของการ correlation ต้องมาสำรวจดูจากprice chartด้วยการเปรียบเทียบการวิ่งของราคาแค่ละช่วงของตลาดที่ประกอบด้วยSydney (เวลา 04.00-13.00),Tokyo(เวลา 07.00-16.00), London(เวลา 14.00-23.00)และ New York (เวลา 19.00-04.00) เมื่อดูจากชาร์ตที่ใช้ market sessions เข้าไปประกอบตามเวลาตลาดเปิด

               แต่ละช่วงจะเห็นว่าUSDJPYแม้ว่าจะวิ่งดี2 ช่วงหลักๆคือTokyo และ New York ที่คู่เงินเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาโดยตรงโดยเฉพาะที่ตลาด overlap กันระหว่างตลาดLondonและตลาดNew Yorkจะเห็นบ่อยๆว่ามีการวิ่งแรงๆเกิดขึ้นเพราะเรื่องvolatilityที่เข้ามาจาก2 ตลาดการเงินหลักๆของโลก

สิ่งที่มีผลกระทบต่อ USDJPY

                การเทรดนอกจากเรื่องของ volatility  ที่ต้องรู้ว่าเกิดขึ้นช่วงไหนแล้ว สิ่งที่มีผลกระทบต่อการการเคลื่อนไหวของคู่เงินนี้จำเป็นต้องรู้ เนื่องจากคู่เงินนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับค่าเงิน USD  ก็จะได้รับผลกระทบแรงๆ จากข้อมูลพื้นฐานหรือข่าวการเมืองสำคัญ หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน USD หมดก็จะสะท้อนออกมาเห็นการเคลื่อนไหวแรงๆ เกิดขึ้น หรือข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับค่าเงิน JPY ก็ส่งผลเช่นกัน เลยนำมาสู่การ correlation ของการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเพราะ high volatlity ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะตอนข่าวแรงๆ ทั้ง 2 ค่าเงินได้ เรื่องของรายงานข่าวและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแต่ละวัน สามารถดูได้ที่ forexfactoy ที่รายงานพร้อมทั้งอธิบายผลกระทบต่อคู่เงินระดับไหน

                ตัวอย่างนี้ จะเห็นการดูเรื่อง volatility ที่เกิดขึ้นจากข่าว Non-Farm Employment Change ที่รายงานทุกวันศุกร์แรกของต้นเดือน ถือว่าเป็นข่าวตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญของอเมริกา ส่งผลต่อค่าเงิน USD คู่เงินที่เกี่ยวข้องก็จะกระทบหมด วิธีการนี้ก็จะเป็นการ correlation ด้วย Dollar Index และคู่เงินอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันคือ EURUSD สามารถเปิดชาร์ตคู่เงินที่เกี่ยวข้อง เปรียบเทียบกันได้หมดเช่น GBPUSD AUDUSD USDCHF USDCAD เป็นต้นล้วนได้รับผลกระทบจากข้อมูลนี้หมด เพราะเทรดเดอร์ต่างให้ความสำคัญ ทั้งเทรดเดอร์ที่รอเข้าก็จะหาโอกาสเข้าเพราะราคาวิ่งแรง และเทรดเดอร์ที่อยู่ในตลาดไม่ว่าจะติดลบหรือกำไร ส่วนมากที่ติดลบจะเป็นฝ่ายที่จำต้องออกเพราะราคาวิ่งแรง เลยต้องกำหนด stop loss เข้าไป เลยทำให้ market orders เกิดขึ้นเยอะเลยส่งผลต่อ volatility ที่เกิดขึ้นช่วงการประกาศตัวเลขสำคัญนี้ เลยทำให้ราคาวิ่งแรงและเร็ว ราคาวิ่งเพราะความคาดหวัง ความกลัวและความโลภของเทรดเดอร์ที่เกิดพร้อมๆ กันเลย

Yen Index ทำให้การเทรด USDJPY ง่ายขึ้นอีก

                แม้ว่าท่านสามารถจะใช้เรื่องcorrelationกับDollar Indexและด้วยการเปรียบเทียบคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับUSDประกอบอย่างที่ยกมาเพราะโบรกเกอร์ส่วนมากมีDollar Indexมาให้เทรดด้วยหรือสามารถหาดูDollar Indexได้ฟรีเพื่อมาเปรียบเทียบหรือcorrelationกับคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับUSD(ถ้าเป็นการใช้ทางเว็บแนะให้ดู Dollar Indexที่investing.com)แต่ไม่นานมานี้ทางโบรกเกอร์FXCM(www.fxcm.com)ได้เปิดตัว JPYBASKETหรือThe Yen Indexเพิ่ม

                ข้อดีคือYen Indexหลักการทำงานก็แบบเดียวกับDollar Indexแต่ก็จะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงค่าเงินJPYกับค่าเงินหลักๆมีUS Dollar,Euro,British Pond,Canadian DollarและAustralian Dollarดังนั้นYen Indexจะขึ้นหรือลงก็จะทำให้เห็นภาพรวมของJPYได้ว่าแข็งหรือว่าไม่แข็งพอสามารถประกอบการเทรด USDJPYได้ง่ายด้วยการใช้Dollar Index และ Yen Index เพื่อเทรดUSDJPY ให้ง่ายกว่าเดิมได้

Price levels จาก Dollar Index และ Yen Index

                ด้วยการมอง price levels ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้ง Dollar Index และ Yen Index และดู USDJPY ประกอบว่าเป็น price levels ที่สะท้อนการเข้าเทรดของขาใหญ่ หรือการมองถึง momentum ในการเข้าเทรดว่าเกิดขึ้นตอนเดียวกันหรือเปล่าก็ได้ แล้วแต่กลยุทธ์การเทรด อย่างภาพด้านบนดูที่ USDJPY ถ้าดูแต่ Dollar Index อย่างเดียวเพื่อ correlation สำหรับเทรด จะเห็นว่าข้อมูลจะไม่มากพอที่จะเทรด trade setup ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อดูที่ Yen Index จะเห็นข้อมูลเพิ่มขึ้นมา Dollar Index หยุดแต่วิ่งอยู่ในกรอบแต่ Yen Index เปิดเผยแบบเดียวกับ USDJPY บอกถึงผลการเคลื่อนไหวครั้งนี้หลักๆ มาจาก Yen Index และอีกอย่าง ถ้าราคาวิ่งหรือพึ่งเริ่ม สามารถใช้หลักการเทรดแบบ Momentum ที่เกิดขึ้นเพื่อถือโอกาสเทรดตามหรือ scalping แบบสั้นๆ ได้ เช่นเหตุการณ์เดียวกันกับด้านบน จะเห็นว่า Dollar Index ไม่ไหว แต่ท่านเห็น Momentum ที่เบรกกรอบออกมาทั้ง USDJPY และ Yen Index ก็สามารถเทรดตามได้

                อีกตัวอย่างเป็นการcorrelationที่เกิดขึ้นในtimeframe H4ดูUSDJPY ที่เลข1แล้วอ่านprice structureประกอบที่มาว่าเกิดอย่างและอ่านแบบเดียวกันที่Dollar IndexและYen Indexเริ่มที่USDJPYเพราะเป็นคู่เงินที่ต้องการเปิดเทรดและใช้หลักการสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างUSDJPY Dollar IndexและYen Index เพื่อประกอบว่าเป็นทางแบบเดียวกันหรือเปล่าค่อยเปิดเทรดตรงที่เลข1เป็นการย่อตัวหลังจากที่ราคาได้ทำ Higher Highเพราะถือว่าเป็นแนวต้าน

                ดูลักษณะของการจบของการเบรคจุดที่วงกลมที่เป็นผลจากความพยายามเป็นอย่างไรทั้ง USDJPY และ Dollar Index ราคาสามารถเอาชนะพื้นที่ตรงข้าม หรือบอกว่าเป็นพื้นที่ supply และจบด้วยการเบรคและราคาปิดทางที่เบรคด้วยส่วน Yen Index ที่วิ่งสวนกับUSDJPY จะเห็นพื้นที่ราคาเอาชนะชัดเจนกว่าราคาพยายามเบรคกรอบหรือdemandหลายรอบจนสุดท้ายการเทรดลงด้วยบาร์ยาวๆและต่อเนื่องกันบอกถึงความไม่สมดุลย์ชัดเจนพอๆกับที่เกิดกับUSDJPYและราคาสามารถทำLower Lowได้ลักษณะแบบเดียวกันที่Higher Highที่USDJPYแต่วิ่งคนละทางกันเท่านั้นเอง

 USDJPY : USDOLLAR และ Yen Index ตรรกะเบื้องหลังแต่ละ trade setup

                เมื่อเข้าใจช่วงตลาดส่งผลต่อ volatility ที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นช่วง overlaps ระหว่างตลาดด้วย London และมาเปิดตลาด New York  แต่สิ่งสำคัญเมื่อกำหนด trade setup ได้ต้องดูว่าตรรกะที่อยู่เบื้องหลังแต่ละ trade setup เมื่อใช้หลักการ correlation ประกอบเป็นแบบเดียวกันหรือเปล่า เพราะจะทำให้ท่านรู้ว่าควรเทรดตรงไหน ไม่ใช่ว่าจะเทรดทุกจุดที่เกิดขึ้น เพราะถ้าจุดที่ trade setup เกิดขึ้น ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังทั้ง Dollar Index และ Yen Index เปิดเผยลักษณะเดียวกันก็จะทำให้ความเป็นไปได้สูงเกิดขึ้น แนะนำให้เทรดเมื่อตรรกะที่อยู่เบื้องหลังเห็นว่ามี impulsive move ชัดเจนเกิดขึ้นนำ เพราะ impulsive move เป็นการบอกถึงการมีส่วนของขาใหญ่ในการเข้าเทรดดันราคาไปทางนั้นๆ จะเห็นเป็นรูป momentum bar เกิดขึ้นและการเอาชนะพื้นที่ตรงข้าม เพื่อทั้งทำให้เกิด trapped traders และบังคับใช้ออเดอร์จาก breakout traders ด้วย พร้อมกันนั้นเมื่อเกิด impulsive move ยังเปลี่ยนข้อมูลสำหรับเทรดเดอร์ที่จะไปวิเคราะห์เพื่อเข้าตลาด โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เทรดตามเทรน พอเห็น impulsive move เกิดก็เข้าใจและมองหาต้นตอที่ราคาต้องการเอาชนะ ก็จะเป็นพื้นที่เข้าเทรดตามเทรนใหม่ที่เกิดขึ้น ถ้าตรรกะลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นทั้ง Dollar Index และ Yen Index ก็ส่งผลทำให้ USDJPY วิ่งไปได้เร็วและง่ายตามมา

การเทรด USD ด้วยหลัก correlation

                สามารถเทรดได้ทั้งแบบscalpingและแบบตามเทรนแล้วแต่กลยุทธ์การเทรดเมื่อเข้าใจว่า correlationระหว่างDollar IndexและYen Indexช่วยเปิดเผยข้อมูลในการเทรดUSDJPYอย่างไรอาจเป็นดูเรื่องmajor moveก่อนถึงกำหนดว่าเป็นเทรนไปทางนั้นๆแล้วหาimpulsive moveที่เกิดขึ้นตามการเปิดเทรด รอให้ราคาเปิดเผยก่อนจะดูตามcorrelationเพราะบอกว่าmarket ordersเริ่มเข้ามาค่อยกำหนด stop loss เหนือหรือต่ำกว่าจุดที่ price level ระหว่าง correlationเกิดขึ้นอย่างภาพด้านบนจุดที่เลข 1 เป็นช่วงตลาด Tokoy เปิดโอกาสเพราะYen Indexเปิดเผยมากกว่าแต่พอจุดที่เลข2เปิดเผยตอนตลาดNew York เปิดและตลาดLondonยังเปิดอยู่เป็นช่วงoverlap กันเลยทำให้เกิด volatility เยอะ จะเห็นว่าทั้ง Dollar Index และ Yen Index เปิดเผยข้อมูลแบบเดียวกัน เลยทำให้ USDJPY วิ่งไปได้เยอะช่วงตลาด New York เปิดมา

Yen Index สำหรับค่าเงิน JPY

                จากที่อธิบายมาYen Indexเป็นตัวสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของJPYกับค่าเงินUS Dollar,Euro, British Pound,Canadian DollarและAustralia Dollarสามารถนำข้อมูลไปใช้กับคู่เงินอื่นๆคือ AUDJPY EURJPY GBPJPY CADJPY ได้นอกจาก USDJPY แต่ที่fxcmข้อมูลที่ชาร์ตเมื่อมองเปรียบเทียบย้อนหลังข้อมูลอาจไม่มากพอแต่สำหรับการเทรดปัจจุบันไปถ้าเข้าใจหลักการทำงานเรื่องcorrelationก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดี

 

ทีมงาน : thaiforexbroker.com