Tips สำหรับเทรด price action
การเทรดด้วย price action ถือว่าเป็นประสบการณ์เทรดที่ท้าทายสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจเทรดด้านนี้ใหม่ มีหลายอย่างที่ต้องตระหนักนอกจากดูรูปแบบที่เกิดจาก price action อย่างเดียวเพื่อการเทรดที่ดีขึ้นและรู้ทันตลาดว่าขาใหญ่กำลังทำอะไรต้องการให้รายย่อยคิดอย่างไรและทำอย่างไร
ข้อแรก ปริบท เมื่อคิดจะเทรด price action ต้องอ่านปริบทรอบๆ price action ที่เกิดขึ้นเป็นโดยเฉพาะมุมมองเรื่องออเดอร์และเทรดเดอร์อื่นๆ ที่เข้าเทรดโดยเฉพาะขาใหญ่เทรดอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น การเทรด pin bar, engulf bar ถ้าเห็นปริบทประกอบจะดี ว่าเป็นการล่า stop hunt เพื่อเข้าเทรดที่จุดๆ ที่เกิด impulsive move เปล่าก็จะไม่ใช่แค่เป็น pin bar หรือ engulfing bar แล้วเทรดเลย ที่เลข 1 pin bar เกิดขึ้นและทำงานดีที่บอกว่าเป็น reversal ในการเข้าเทรด เมื่อท่านมองบริบทสัมพันธ์กับ Impulsive move ที่เกิดขึ้นราคาเบรค high ก่อนพอดีที่เป็นจุดที่ trend traders มองที่จะเข้าเทรดต่อและเป็นจุดที่เทรดเดอร์ที่เทรดสวนเทรนลงมาราคาไม่สามารถเบรคลงไปต่อได้อีก พอมาที่ Pin bar ที่ เลข 2 ราคาไม่สวนอย่างที่เมื่อมองรูปแบบ price action อย่างเดียวแล้วเทรด แต่เมื่อมองปริบทประกอบจะเห็นว่าหางบาร์หรือ wick ที่เป็นส่วนประกอบของ pin bar เป็นการทดสอบ supply ที่อยู่ด้านบนและเป็นการเคลียร์ sell limit orders ตรงนั้นไปในตัวด้วยทำให้เกิด path of least resistance ราคาจะวิ่งไปได้ง่ายขึ้นหรือ pin bar ที่เลข 3 เพราะราคาเพื่อทำ lower high ตามด้วย lower low ลงมาเพิ่งเป็นการเปลี่ยนเทรน
ข้อสองเรื่อง Pin Bar เกิดขึ้นเพราะหลายเหตุผล – ส่วนสำคัญของ Pin bar คือหางบาร์ที่เกิดขึ้น หรือส่วนนี้ถ้ามองใน ชาร์ต time frame ย่อยลงไป จะเห็นเป็นรูป engulfing bar ต้องแยกให้ออกคำว่า trading pressure เช่น buying pressure หรือ selling pressure ต้องมองให้เกินคำนี้ ต้องดูให้ออกว่าเป็นการเข้าหรือการออกเทรด เพราะ 2 อย่างนี้แม้ว่าทำให้เกิด pin bar เหมือนกัน แต่ผลที่ตามมาต่างกันคนละเรื่อง เพราะ pin bar โดยเฉพาะเมื่อเทรดกับ confluence เช่นกับ support/resistant, supply/demand หรือ pivots ถ้าเกิดจากการเข้าเทรดจะทำให้โต้ตอบตามที่เทรดเดอร์คาดหวัง คือวิ่งสวนเทรนหรือเกิด reversal แต่ถ้าเป็น pin bar ที่เกิดจากการปิดทำกำไรอาจมีวิ่งสวนเทรนบ้างนิดหน่อยแล้วก็ไปต่อ ไม่เหมือนแบบที่เกิดจากการเข้าเทรด
ข้อสาม เรื่อง swing high/swing low ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะขาใหญ่เข้าเทรดและปิดทำกำไรต้องดูให้ออก เพราะเทรดเดอร์ที่เทรด price action ก็จะมอง swing high/swing low เป็นจุดที่ราคาจะวิ่งไป เพราะเมื่อจะเปิดเทรดต้องเปิดเทรดให้สัมพันธ์กับจุดที่เกิดจากการเข้าเทรดไม่ใช่จุดที่เกิดจากการปิดทำกำไร เพราะเหตุผลเมื่อขาใหญ่เปิดเทรดและจะปิดทำกำไรจากที่ดันราคาขึ้นมา พวกเขาจะปิดได้ก็ต่อเมื่อมีออเดอร์ตามมาทางที่พวกขาเปิดเทรด การปิดทำกำไรต้องการออเดอร์ตามมาทางที่พวกเขาเปิดเทรด
จะเห็นว่า swing high เกิดจากการปิดทำกำไรของขาใหญ่ ส่วน swing low เกิดจากการเข้าเทรด ต้องดูออเดอร์ที่เข้าตลาดก่อนเกิด swing high/swing low ประกอบ ก่อนที่ swing high จะเกิดจะเห็นกรอบสีเขียวที่มีแต่เทรดเดอร์เข้าเปิด buy เพราะมี buy orders เข้ามาเลยเปิดโอกาสให้ขาใหญ่ได้ปิดกำไรที่เปิด long positions ขึ้นมาแต่ด้านล่างได้ เพราะถ้าขาใหญ่จะปิดกำไรที่พวกเขาเปิด buy ขึ้นมาแต่ล่าง พวกเขาต้องการให้มี buy orders พื้นที่พวกเขาต้องการปิด ส่วน swing low เกิดหลังจากที่ราคาลงจากจุด swing high การที่ราคาลงมาก็จะทำให้เทรดเดอร์ที่เปิด long positions ตอนที่ราคาวิ่งขึ้นไปแล้วเกิด swing high ออกจากตลาด ก็จะทำให้เกิด sell market orders เข้าตลาดเป็นหลัก ซึ่ง sell orders พวกนี้ขาใหญ่ก็จะใช้ เปิดเข้าเทรดเพิ่มอีกรอบ ดังนั้นการที่ขาใหญ่จะตัดสินใจเทรดหรือปิดทำกำไร ก็เพราะพวกเขาเห็นว่ามีออเดอร์ฝั่งตรงข้ามมากพอที่เปิดเทรดและปิดทำกำไรได้ ดังนั้น swing high/swing low จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีออเดอร์มากพอที่ขาใหญ่จะเปิดเทรดหรือปิดทำกำไรได้ swing high/swing low ค่อยเกิดขึ้น swing high/swing low จะเกิดหลังจากที่มีการเคลื่อนไหวแรงเพราะมีออเดอร์เข้าตลาดพอที่ขาใหญ่จะเปิดเทรดหรือปิดทำกำไรได้
ข้อสี่ การเปลี่ยนเทรนจะเริ่มด้วยเห็นการเคลื่อนไหวสวนเทรนแรงๆ – การหาว่าเทรนจะเปลี่ยนเมื่อไร ที่ไหนอย่างไร เป็นเป้าหมายหลักของเทรดเดอร์ price action ส่วนมากก็จะใช้วิธีการดูจุดอ้างอิงเก่าๆ เช่น support/resistance, support/demand แล้วก็ดู price action ที่เกิดขึ้นประกอบเช่น Pin bar, engulfing bar ที่เกิดขึ้นให้เห็นที่พื้นที่พวกนั้น แม้ว่า pin bar หรือ engulfing bar จะให้ข้อมูลเรื่องการกลับเทรน แต่ก็เป็นแค่ข้อมูลทางแท่งเทียนเพราะราคาไม่ไปทางสวนก็เกิดขึ้นประจำ สิ่งที่ต้องการจะเห็นเกิดก่อนคือเห็นว่ามีการวิ่งสวนเทรนอย่างแรงให้เห็นเป็นตัวนำหน้าก่อน โดยเฉพาะราคาได้วิ่งทางใดทางหนึ่งมาสักระยะเป็นเพราะความรู้เรื่องเทรนและเทรดตามทฤษฏีเทรน
ข้อห้า วิธีการมองพื้นที่ราคาให้มองเป็นแบบพื้นที่ เพราะเรื่อง order clustering หลักการ base/zone ของแนวการมอง demand/supply แทนที่จะมีแค่ราคาเดียวแบบ support/resistance
ข้อหก เทรดเมื่อเห็น impulsive move เพราะบอกว่าเป็นการอยากดันราคาไปต่อทางนั้นๆ จริงเพราะ Impulsive move บอกว่าราคาได้เอาชนะ high/low ก่อนได้แสดงว่ายังมี market orders มากและต่อเนื่องทางนั้นๆ ต่ออยู่ บอกว่าขาใหญ่ยังอยากเทรดทางนั้นต่ออยู่ ต้องเห็นการเอาชนะหรือปิดเอาชนะพื้นที่ตรงข้ามด้านบาร์ยาวๆ และราคาปิดทางที่ราคาเบรคพื้นที่ตรงข้าม ยิ่งไม่มีหางบาร์เลยยิ่งดี
ทีมงาน : thaiforexbroker.com