รีวิวโบรกเกอร์ HFM ดีไหม ในปี 2025? รีวิวฉบับเจาะลึก

สรุปคะแนน HFM

ความน่าเชื่อถือ
53%
ค่าบริการ
76%
การฝากถอน
93%
คุณภาพการบริการ
84%
ประสบการณ์เทรด
57%
ความง่ายในการใช้งาน
90%

7.22 / 10

HFM หรือ ที่ชื่อว่า HotForex เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการมายาวนานตั้งแต่ปี 2010 และยังได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำหลายแห่งด้วยกันครับ ซึ่งจะมาพร้อมกับเงื่อนไขการเทรดที่น่าสนใจต่างๆมากมาย เช่น เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 และการฝากถอนฟรีค่าธรรมเนียม โดยรองรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่มากเช่นกัน ดังนั้นจะเหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับใคร วันนี้ผมจะมาสรุปให้ฟังครับ

เปิดบัญชีเทรด HFM

สรุปภาพรวม HFM คือใคร? ดีไหม?

  • ประเภทโบรกเกอร์ คือ A-Book ซึ่งเป็นคำบอกกล่าวจากซัพพอร์ต…ซึ่งต้องดูกันต่อไปถึงผลการทดสอบในการเทรดต่างๆภายในบทความนี้
  • ปีก่อตั้ง 2010 และ ที่ตั้ง สำนักงานใหญ่อยู่ที่ Spyrou Kyprianou 50, Irida 3 Tower, 10th Floor, Larnaca 6057, ไซปรัส
  • จำนวนผู้ใช้งานและดาวน์โหลดแอป มากกว่า 1 ล้านคน
  • ให้บริการในไทยมานาน แต่ก็ยังถือว่าไม่เกิน 10 ปี ? (นับจากการก่อตั้งเพจ Facebook HFM ที่ได้ทำการก่อตั้งชื่อว่า HF Thailand Official ในปี 2017)
  • แบบเบื้องต้น มี บัญชี Cent แต่ ECN ไม่มี โดยที่ ทุกบัญชีจะเป็น STP ดังนั้นแล้วเราจะไปลงรายละเอียดกันทีหลังนะครับ ซึ่งทาง HFX จะให้ เลเวอเรจสูงสุด อยู่ที่ 1:2000 และ มี Stop Out 20%
  • ฝากถอนผ่านธนาคารไทย ได้ แต่หาก ฝากถอนผ่านคริปโต จะฝากได้ แต่ ถอนไม่ได้ ทั้งนี้จะไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมแต่จะมีขั้นต่ำในการฝากถอน ดังนี้
    • ขีดจำกัดการฝาก 200 – 500,000 บาท
    • ขีดจำกัดการถอน 5 – 10,000 USD
  • MT4/5 ทั่วๆไป อยากอื่นไม่มีครับ

HFM เชื่อถือได้แค่ไหน? ตรวจสอบความมั่นคงของโบรก

ใบอนุญาตและการกำกับดูแลของ HFM
รูปที่ 1 รวมรวมใบอนุญาตและการกำกับดูแลของ HFM ทั้งหมด

ใบอนุญาตและการกำกับดูแลของ HFM

  • FCA (Financial Conduct Authority) สหราชอาณาจักร
    • เลขที่ใบอนุญาต 801701
    • ชื่อการค้า HF Markets (UK) Limited
    • ที่ตั้งสำนักงาน Bloomsbury Building, 10 Bloomsbury Way, Holborn, London, WC1A 2SL, United Kingdom
    • ตรวจสอบใบอนุญาต มีข้อมูลจริง
  • DFSA (Dubai Financial Services Authority) ดูไบ
    • เลขที่ใบอนุญาต F004885
    • ชื่อการค้า HF Markets (DIFC) Limited
    • ที่ตั้งสำนักงาน Unit OT 20-53, Level 20, Central Park Offices, DIFC, PO Box 507274, Dubai, UAE
  • FSCA (Financial Sector Conduct Authority) แอฟริกาใต้
    • เลขที่ใบอนุญาต 46632
    • ชื่อการค้า HF Markets SA (PTY) Ltd
    • ที่ตั้งสำนักงาน Katherine & West, Suite 18, Second Floor, 114 West Street, Sandton 2021
  • FSA Seychelles (Financial Services Authority) เซเชลส์
    • เลขที่ใบอนุญาต SD015
    • ชื่อการค้า HF Markets (Seychelles) Ltd
    • ที่ตั้งสำนักงาน: Unit C, F28, Eden Plaza, Eden Island, Seychelles
  • CMA (Capital Markets Authority) เคนยา
    • เลขที่ใบอนุญาต 155
    • ชื่อการค้า HFM Investments Limited (Trading as “HF Markets”)
    • ที่ตั้งสำนักงานO. Box 30333-00100, Nairobi

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ประวัติองค์กร และประวัติการดำเนินงาน

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ประวัติองค์กร และประวัติการดำเนินงาน
รูปที่ 2 สรุปข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ประวัติองค์กร และประวัติการดำเนินงาน

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท

  • ข้อมูลบริษัทและจุดเริ่มต้นของ HFM
  • ปีที่ก่อตั้ง 2010
  • ชื่อการค้า HFM (HF Markets)
  • สำนักงานใหญ่ Spyrou Kyprianou 50, Irida 3 Tower, 10th Floor, Larnaca 6057, ไซปรัส
  • ประเภทโบรกเกอร์ A-Book (ข้อมูลจากฝ่ายซัพพอร์ตของ HFM)
  • จำนวนพนักงาน 967 คน

การเติบโตและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

  • รีแบรนด์จาก HotForex เป็น HFM ในปี 2022
  • ให้บริการมากกว่า 500 ตราสาร ครอบคลุม Forex, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ
  • ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก รองรับภาษามากกว่า 20 ภาษา

กลยุทธ์ทางการตลาดของ HFM

  • ใช้ โค้ชสอนเทรด และ Live วิเคราะห์กราฟ เพื่อดึงดูดเทรดเดอร์มือใหม่
  • ใช้ โฆษณาโปรโมตเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด

ผู้บริหาร HFM ใครอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ?

HFM เป็นโบรกเกอร์ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 14 ปี แต่กับไม่มีข้อมูลเปิดเผยเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งเลยครับ ซึ่งน่าแปลกใจ…อย่างไรก็ตามก็มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในปี 2022 ดังนี้

CEO คนปัจจุบันของ HFM คือ Domluke da Silva

  • เข้ารับตำแหน่ง CEO ตั้งแต่ปี 2022
  • ไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับสัญชาติ
  • มีการปรากฏตัวใน ForexExpo และโพสต์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการเงินใน LinkedIn

ข้อคิดเห็น

  • HFM ไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้ก่อตั้งบริษัท
  • CEO ไม่ค่อยมีการปรากฏตัวในสื่อมากนัก ยกเว้นงานอีเวนต์ใหญ่

ระดับความนิยมของ HFM ในตลาดโลก

แม้ว่า HFM จะเป็นโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหลายประเทศ แต่ในแง่ความนิยมยังถือว่า อยู่ในระดับกลาง ทำไมผมพูดแบบนั้นล่ะ…ลองมาดูข้อมูลเหล่านี้กันก่อนครับ

สถิติความนิยมของ HFM จากแหล่งต่างๆ

  • จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ต่อเดือน (Ubersuggest) 169,294 คน
  • ยอดดาวน์โหลดแอปบน PlayStore 1M+ ดาวน์โหลด
  • คะแนนรีวิวแอป5/5 (จาก 7,270 รีวิว) มีคะแนนอยู่ในระดับกลางๆไปถึงต่ำ

จำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย

  • Facebook: 4M ผู้ติดตาม
  • YouTube: 4K ผู้ติดตาม
  • Instagram: 214K ผู้ติดตาม

ข้อคิดเห็น

  • คะแนนแอป ค่อนข้างต่ำ (3.5/5) อาจมีปัญหาด้านการใช้งานจริงๆนั้นแหละครับ
  • แม้จะมีฐานผู้ติดตามจำนวนมาก แต่ระดับการมีส่วนร่วมอาจต่ำเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ยอดนิยมอื่นๆซึ่งลองไปดูของพวก Exness หรือ XM เปรียบเทียบกันได้ครับ

ข้อมูล HFM ในไทย ได้รับความนิยมแค่ไหน?

HFM เริ่มเข้าสู่ตลาดไทยอย่างจริงๆจังๆก็ตั้งแต่ ปี 2017 และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้น การสอนเทรดผ่านโค้ช เพื่อดึงดูดลูกค้า เป็นหลัก…จากที่สังเกตุมาก็เป็นเช่นนั้นมาตลอด

กลยุทธ์การตลาดของ HFM ในไทย

  • ใช้โค้ชสอนเทรด และ Live วิเคราะห์กราฟ
  • เน้น เทรดเดอร์มือใหม่ ที่ต้องการคำแนะนำ

ความนิยมของ HFM ในไทย (สำหรับคนไทย)

  • เพจ Facebook 4 ล้านคนติดตาม
  • YouTube ช่องไทย 538 คนติดตาม
  • Instagram ไทย 3,113 คนติดตาม
  • Traffic เข้าเว็บไซต์ไทย (Ubersuggest) มี 5,401 คน/เดือน

ข้อดีสำหรับคนไทย

  • ฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้
  • มีเว็บภาษาไทย & ซัพพอร์ตภาษาไทย
  • มีโค้ชสอนเทรดภาษาไทย

ข้อคิดเห็น

  • ฐานคนติดตามบน YouTube ไทยยังน้อยมาก อาจยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในตลาดไทย
  • กลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าผ่านโค้ชอาจเหมาะกับมือใหม่ก็จริงครับ…แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ใช้ระดับสูงได้รับประสบการณ์ดีแค่ไหน…รอไปดูหัวข้อรีวิวการเทรดในบทนี้กันดีกว่าครับ

เทรดกับ HFM กับ รีวิวประสบการณ์ใช้งานจริง

รูปที่ 3 รีวิวด้านการเทรดประสบการณ์จริงจากการทดสอบจริงในบัญชีต่างๆ

รีวิวด้านการเทรดประสบการณ์จริงจากการทดสอบ

ทดสอบภาพรวมการเทรด บัญชีไหนเหมาะกับใคร?

  • บัญชี Cent ใช้เงินลงทุนต่ำ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองเทรด Spread ใกล้เคียงบัญชี Premium ข้อเสีย เทรดได้แค่ คู่เงินและทอง
  • บัญชี Pro & Premium ไม่มีค่าคอมมิชชั่น บัญชี Pro มี Spread ต่ำกว่า Premium แต่ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 100 USD แต่ บัญชี Premium ไม่ต้องฝากขั้นต่ำ
  • บัญชี Zero Spread ต่ำ แต่มีค่าคอมมิชชั่น เหมาะกับคนที่ต้องการ Spread คงที่และยอมรับค่าคอมมิชชั่น
  • บัญชี TOP-UP BONUS ออกแบบมาเพื่อรับโบนัสเท่านั้น Spread สูง ไม่เหมาะกับการเทรดจริง

ทดสอบการเทรดช่วงตลาดปกติ ลื่นไหลหรือไม่?

  • เท่าที่ทดสอบมาก็ไม่มีปัญหารีโควตแต่อย่างใดครับ
  • เข้าออกออเดอร์ หรือ ปรับ SL/TP ได้ลื่นไหลดี
  • เทียบกราฟกับ TradingView แล้วไม่มีความผิดปกติใดๆครับ

รีวิวการเทรด Forex ต้นทุนเป็นอย่างไร?

  • ข้อดี ค่าใช้จ่ายคู่เงินหลักอยู่ในระดับ กลางๆ มีคู่เงินให้เทรดครบ คู่หลัก, คู่รอง และ Exotics มี USD/THB ให้เทรด
  • ข้อเสีย ไม่มีค่า Swap เป็นบวก

รีวิวการเทรดทอง คุ้มไหม?

  • ข้อดี มี XAUUSD และ XAUEUR ให้เทรด
  • ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลายโบรกเกอร์ Spread ,Commission และ Swap ค่อนข้างแพง บัญชี Pro มีต้นทุนต่ำสุดอยู่ที่ 16.48 USD/Lot

รีวิวการเทรดคริปโต คุ้มค่าแค่ไหน?

  • ข้อดี มีเหรียญหลักให้เทรด เช่น BTC, ETH, XRP, BNB
  • ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลายโบรกเกอร์ ให้ Swap แพง และ มีเหรียญให้เทรดไม่เยอะ และ ไม่มีช่องทางการถอนผ่านคริปโตอีก

ทดสอบเทรดข่าว –Spread ขยายเยอะไหม?

  • ทดสอบความเร็วเปิดออเดอร์และ Spread ช่วงข่าว
    • ความเร็วเปิดออเดอร์ก่อนข่าวออก 217.867 ms
    • Spread ก่อนข่าว 17 Point
    • Spread สูงสุดช่วงข่าว 77 Point
    • เวลาที่ Spread กลับมาปกติ 188 วินาที
  • ข้อดี ความเร็วปกติเมื่อไม่มีข่าว…สายเทรดข่าวอาจจะถูกใจสิ่งนี้
  • ข้อเสีย Spread ขยายเยอะช่วงข่าว…อาจจะพบเห็นได้บ่อยในหลายโบรกเกอร์

การเปิดบัญชีง่ายหรือยุ่งยากไหม ?

  • ขั้นตอนเปิดบัญชี
    • เข้าเว็บไซต์ HFM แล้วกด “ลงทะเบียน”
    • กรอกข้อมูลส่วนตัว & อีเมล
    • ยืนยันอีเมล & เบอร์โทร
    • อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน
    • รออนุมัติ (ปกติไม่เกิน 10 นาที)
  • ข้อดี คือ สมัครง่ายและเร็ว ระยะเวลายืนยันตัวตน 9 นาที
  • ข้อเสีย คือ ต้องกรอกข้อมูลหลายขั้นตอน

รีวิว Copy Trading และ VPS  ของที่นี้

Copy Trading ของ HFM
รูปที่ 4 รูปร่างหน้าตาของระบบ Copy Trading ของ HFM

รีวิว Copy Trading หรือ HFcopy ใช้งานง่ายแค่ไหน?

  • ชื่อระบบ HFcopy ใช้งานได้ในพื้นที่ลูกค้า (Client Area)
  • จ่ายค่าธรรมเนียมเป็น Performance Fee โดย ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์ที่ให้คัดลอก
  • จำนวนกลยุทธ์ให้ Copy 2,461 กลยุทธ์…ณ วันที่หาข้อมูลนะครับ
  • ระดับการใช้งานง่าย คือ 9/10..ถือว่าใช้งานง่ายพอตัวครับสามารถกดติดตามกลยุทธ์และฝากเงินเข้าระบบได้เลย และ มีการระบุความเสี่ยงของแต่ละกลยุทธ์ให้ด้วย

ข้อดีของ HFcopy

  • ใช้งานง่าย เลือกเทรดเดอร์ที่ต้องการคัดลอก กดติดตาม และฝากเงินได้เลย
  • มีสถิติให้ดูครบถ้วน ดูกำไร-ขาดทุน, จำนวนครั้งที่ชนะ, ค่าความเสี่ยง ฯลฯ
  • มีฟิลเตอร์ช่วยกรองกลยุทธ์ สามารถเลือก Copy Trade ตามสไตล์ได้
  • บัญชี Cent ก็สามารถปล่อยให้ Copy ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนด้วยเงินน้อยๆ….ขนาด Master ยังใช้บัญชี Cent อันนี้ต้องชั่งใจนะครับ

ข้อเสียของ HFcopy

  • ไม่มีเทรดเดอร์ไทยให้คัดลอกมากนัก โดยส่วนใหญ่เป็นเทรดเดอร์ต่างชาติ หากต้องการพูดคุย ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เท่านั้นครับ
VPS ของโบรกเกอร์ HFM
รูปที่ 5 สรุปเงื่อนไขรีวิว VPS ฟรี  ของโบรกเกอร์ HFM

รีวิว VPS ฟรี  ใช้ได้จริงหรือจกตา ?

  • มี VPS ฟรี แต่มีเงื่อนไข ? คือ
    • ฝากเงินอย่างน้อย 400 USD ภายใน 30 วันซึ่งถือว่าแพงกว่าค่า VPS ทั่วไปเยอะอยู่ครับ เพียงแต่มันเอาเงินมาเทรดได้เท่านั้นเอง
    • เทรดอย่างน้อย 2 Standard lot ต่อเดือน…เยอะอยู่นะครับ สายถือยาวก็ต้องเป็นกังวลกันไม่มากก็น้อยแหละ
  • หากไม่ผ่านเงื่อนไข จะต้องเสียค่าบริการ
    • Bronze (ฟรีหากผ่านเงื่อนไข) 25 USD/เดือน 1 Core /2560MB/30GB
    • Silver 50 USD/เดือน 2 Core /4096MB/50GB
    • Gold 80 USD/เดือน 7 Core /6656MB/78GB
  • วิธีสมัครใช้งาน VPS ฟรี
    • หากผ่านเงื่อนไข สามารถขอรับ VPS ได้ใน Client Area ได้เลย

ข้อดีของ VPS ฟรี

  • เหมาะกับคนที่ใช้ EA (Expert Advisor) หรือรันออเดอร์ 24/7
  • มีสเปคที่รองรับการรัน MT4/MT5 ได้สบาย
  • ลดปัญหาการเชื่อมต่อหลุดขณะรันออเดอร์

ข้อเสียของ VPS ฟรี

  • ต้องมีเงินฝากและปริมาณเทรดขั้นต่ำถึงจะได้รับฟรี
  • หากไม่ผ่านเงื่อนไข ต้องเสียค่าบริการ VPS
  • VPS ฟรีได้แค่แพ็กเกจ Bronze ซึ่งมีสเปคต่ำสุด

รีวิวจากเทรดเดอร์ทั่วโลก  HFM ดีแค่ไหน?

HFM นั้นได้รับรีวิวจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ต่างๆหลายที่ เช่น ForexPeaceArmy และ Trustpilot ซึ่งมันสามารถสะท้อนทั้ง ข้อดี และ ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงได้ โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับ ปานกลางถึงดี ซึ่งผมจะอ้างอิงจากข้อมูลดังต่อไปนี้

ข้อมูลจาก ForexPeaceArmy

รีวิวข้อมูลจาก ForexPeaceArmy
รูปที่ 6 รูปภาพรีวิวข้อมูลจาก ForexPeaceArmy  ของโบรกเกอร์ HFM
ปัญหาที่เทรดเดอร์พบจากการใช้งาน HFM
  1. ปัญหาการเปิดปิดออเดอร์ผิดปกติ อ่านเพิ่มเติ่ม
  • มีผู้ใช้บางรายกล่าวหาว่า ราคาเปิดออเดอร์สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาตลาด มากผิดปกติ เช่น
    • AUD/USD เปิดออเดอร์สูงกว่าตลาดถึง 15 pips
    • Sell Order ต่ำกว่าตลาด 20 pips ทำให้ขาดทุนทันที
  • สถานะ HFM ได้ คืนเงินให้ผู้ใช้ที่พบปัญหา

สรุป อาจเกิดความผิดพลาดด้าน Liquidity หรือ Slippage แต่ HFM มีการแก้ไขและคืนเงินให้

  1. ปัญหาการถูกปิดบัญชีโดยไม่แจ้งล่วงหน้า อ่านเพิ่มเติ่ม
  • มีผู้ใช้ร้องเรียนว่า บัญชีของเขาถูกปิดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
  • สาเหตุที่โบรกเกอร์ให้มา เทรด BTCEUR ในราคาที่ผิดพลาด
  • ผู้ใช้โต้แย้งว่า ไม่ได้ทำผิดกฎ และทำตามราคาที่แพลตฟอร์มให้มา
  • เงินที่ถูกยึดไป ประมาณ 9,000 USD
  • สถานะ HFM ยังไม่ได้คืนเงินทั้งหมด มีเพียงคำชี้แจงจากโบรกเกอร์เท่านั้น

สรุป ปัญหานี้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด บางคนอาจมองว่าเป็นความผิดพลาดของราคา

  1. ปัญหาการเปลี่ยนแปลง Lot Size หรือเงื่อนไขจากโบนัสมีการเปลี่ยนแปลง อ่านเพิ่มเติ่ม
  • มีผู้ใช้บางคนร้องเรียนว่า
    • คำขอถอนเงินถูกยกเลิก
    • เงิน 180 USD ถูกหักไปโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
    • อ้างว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโปรแกรมโบนัส
  • สถานะ HFM ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาและคืนเงินในบางกรณี

สรุป แม้ว่า HFM จะมีการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า แต่บางครั้งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่แจ้งล่วงหน้าอันนี้ต้อง ศึกษาให้ดีก่อนลงทุนทุกครั้งนะครับ

ข้อมูลจาก trust pilot

รีวิวข้อมูลจาก trust pilot
รูปที่ 7 รูปภาพรีวิวข้อมูลจาก trust pilot ของโบรกเกอร์ HFM

ค่าธรรมเนียม โบนัส และโปรโมชั่น คุ้มค่าหรือเปล่า?

โบนัส และโปรโมชั่น ของโบรกเกอร์ HFM
รูปที่ 8 รูปภาพตัวอย่างโบนัส และโปรโมชั่น ของโบรกเกอร์ HFM ในปี 2025

โบนัสเงินฝาก HFM ปี 2025 คุ้มไหม?

รายละเอียดโบนัสเงินฝาก

  • 100% โบนัสเงินฝากครั้งแรก
  • 20% โบนัสเงินฝากครั้งต่อไป
  • สูงสุด 180,000 THB
  • โบนัสไม่สามารถถอนได้ แต่กำไรจากการเทรดสามารถถอนได้
  • ต้องใช้บัญชี TOP-UP BONUS เท่านั้น

โปรโมชั่นพิเศษของ HFM ปี 2025

  1. ให้ผลตอบแทน Margin คงเหลือ
  • เทรดเดอร์สามารถ รับผลตอบแทนจาก Margin ที่คงเหลือ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์
  • ต้องเทรดครบตามเป้าหมายที่กำหนด ถึงจะได้รับผลตอบแทน

ข้อดี

เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เทรดต่อเนื่องและต้องการดึงกำไรจาก Margin ที่ไม่ได้ใช้

ข้อเสีย

เงื่อนไขซับซ้อน ต้องทำตามเป้าหมายจึงจะได้รับผลตอบแทน

  1. HFM Trading Rewards Loyalty Program
  • ระบบสะสมแต้ม HFM Bar เพื่อแลกรางวัล เช่น เงินสด & บริการพิเศษ
  • ได้รับแต้มจากการเทรดตามเงื่อนไข
  • ระดับของ HFM Bar:
    • HFM Red: 6 Bar/Lot (เริ่มต้น)
    • HFM Silver: 8 Bar/Lot (เทรดต่อเนื่อง 31 วัน)
    • HFM Gold: 10 Bar/Lot (เทรดต่อเนื่อง 62 วัน)
    • HFM Platinum: 12 Bar/Lot (เทรดต่อเนื่อง 105 วัน)

ข้อดี

สะสมแต้มแลกเงินสดได้ เหมาะกับคนที่เทรดต่อเนื่องและต้องการรับสิทธิพิเศษเพิ่ม

ข้อเสีย

ต้องเทรดอย่างสม่ำเสมอเพื่อสะสมแต้ม (ถ้าหยุดเทรด อาจเสียสิทธิ์) และของรางวัลอาจไม่ได้มีมูลค่าสูงมาก

บัญชีเทรดของ HFM แบบไหนเหมาะกับคุณ?

บัญชีเทรดของโบรกเกอร์ HFM
รูปที่ 9 รูปภาพบัญชีเทรดของโบรกเกอร์ HFM

สรุปภาพรวมบัญชีเทรดของ HFM

  • บัญชี Cent เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยเงินทุนต่ำ และใช้เทรดล็อตขนาดเล็ก (Lot Cent) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่ข้อเสียคือสามารถเทรดได้แค่คู่เงิน Forex และทองคำเท่านั้น
  • บัญชี Zero มีค่าคอมมิชชั่นแต่ให้ Spread ที่ต่ำมาก เหมาะกับคนที่ต้องการความโปร่งใสในการคิดค่าธรรมเนียม และต้องการ Spread คงที่โดยไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาด
  • บัญชี Pro เป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีทุนระดับกลางขึ้นไป ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 100 USD แต่ให้ Spread ต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ต้นทุนการเทรดถูกกว่าบัญชี Premium
  • บัญชี Premium เป็นบัญชีที่เปิดกว้างที่สุด ไม่มีค่าคอมมิชชั่น และไม่มีขั้นต่ำในการฝาก แต่มีข้อเสียคือ Spread สูงกว่าบัญชี Zero และ Pro ดังนั้นหากต้องการลดต้นทุนการเทรด บัญชี Pro หรือ Zero จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
  • บัญชีโบนัสเงินฝาก ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการรับโบนัสเป็นหลัก โดยต้องฝากเงินแล้วรับโบนัสตามเงื่อนไข แต่ข้อเสียคือ Spread แพงกว่าทุกบัญชี ทำให้ต้นทุนการเทรดสูง

ด้านต้นทุนการเทรด

  • บัญชี Zero เป็นบัญชีเดียวที่มีค่าคอมมิชชั่น แต่เมื่อรวมค่าคอมมิชชั่นและ Spread แล้ว บัญชีนี้มีต้นทุนต่ำกว่าบัญชี Premium เล็กน้อย ขณะที่บัญชี Pro ให้ Spread ต่ำกว่าทั้ง Premium และ Zero
  • บัญชี Premium มี Spread สูงที่สุด เมื่อเทียบกับบัญชีหลักอื่นๆ ดังนั้นหากต้องเลือกระหว่าง Premium กับ Zero บัญชี Zero จะคุ้มค่ากว่าเพราะต้นทุนโดยรวมต่ำกว่า

ด้านข้อจำกัดการฝากและถอน

  • บัญชี Cent, Zero, Premium และบัญชีโบนัสเงินฝาก ในหน้าเว็บไซต์แจ้งว่าฝากขั้นต่ำคือ 0 บาท แต่จากการทดสอบจริง จะมีเงื่อนไขการฝากขั้นต่ำตามแต่ละช่องทางของระบบ
  • บัญชี Pro เป็นบัญชีเดียวที่กำหนดฝากขั้นต่ำที่ 100 USD

ด้าน Stop Out และ Leverage

  • ทุกบัญชีมีระดับ Margin Call ที่ 50% และ Stop Out ที่ 20% เท่ากัน
  • บัญชีโบนัสเงินฝากเป็นบัญชีเดียวที่มี Leverage สูงสุดที่ 1:1000 ส่วนบัญชีอื่นๆ สามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดที่ 1:2000
  • Leverage จะถูกปรับอัตโนมัติตามยอดเงินในบัญชี หาก Equity สูงกว่า 5,000 USD จะลดเหลือ 1:1000 และหากมากกว่า 40,000 USD จะลดเหลือ 1:500 และถ้าเกิน 100,000 USD จะถูกลดเหลือ 1:200 เป็นต้น
  • ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ ระบบจะปรับ Leverage ลงเหลือ 1:500 ก่อนข่าวออก 15 นาที และจะกลับมาเป็นปกติหลังจากข่าวออกไปแล้ว 5 นาที

การฝากถอนเงิน ง่าย รวดเร็ว หรือมีปัญหาไหม?

การฝากถอนเงินของโบรกเกอร์ HFM
รูปที่ 10 รูปภาพการฝากถอนเงินเทรดของโบรกเกอร์ HFM

ช่องทางการฝากถอนเงิน

  • ช่องทางการฝากเงินที่รองรับ
    • ฝากผ่านธนาคารไทย รองรับ Online Banking (QR Code Transfer) ไม่มีค่าธรรมเนียมเงินเข้าทันที
    • ฝากผ่านคริปโต รองรับ Bitcoin, Ethereum, Litecoin, USDT (ERC20, TRC20) และเหรียญอื่นๆ ไม่มีค่าธรรมเนียม เงินเข้าทันที หรืออาจใช้เวลาสูงสุด 10 นาที ขึ้นอยู่กับเครือข่ายบล็อกเชน
    • ฝากผ่านช่องทางอื่นๆ รองรับ บัตรเครดิต, Neteller, Skrill, FasaPay ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • ช่องทางการถอนเงินที่รองรับ
    • ถอนผ่านธนาคารไทย รองรับ Online Bank Transfer ไม่มีค่าธรรมเนียม เงินเข้าภายใน 1-24 ชั่วโมง (ทดสอบจริง เงินเข้าภายใน 1 นาที) ขีดจำกัดการถอน: 5 – 10,000 USD
    • ถอนผ่าน e-Wallets รองรับ Neteller, Skrill, WebMoney, FasaPayไม่มีค่าธรรมเนีย
    • ไม่มีช่องทางถอนผ่านคริปโต หากฝากด้วยคริปโตจะต้องถอนผ่านช่องทางอื่น

รีวิวความเร็วและความแม่นยำของเรทฝากถอน

  • ทดสอบการฝากเงิน ฝากผ่าน QR Code Online Bank Transfer (A) จำนวนเงินที่ฝาก 3,658 บาท เงินเข้าทันที
  • ทดสอบการถอนเงิน ถอนผ่าน Online Bank Transfer (A) จำนวนเงินที่ถอน 3,647 บาท เงินเข้าธนาคารใน 1 นาที
  • ผลต่างเงินฝากเข้าและถอนออก ขาดทุนจากเรทแลกเปลี่ยน -11 บาท คิดเป็น -0.3%

สรุป อัตราเรทฝากถอนมีการปรับเล็กน้อย (-0.3%) ซึ่งถือว่ายอมรับได้ และการดำเนินการทำได้เร็วมาก

การบริการลูกค้า ติดต่อ HFM ได้ช่องทางไหน?

ช่องทางการติดต่อของโบรกเกอร์ HFM
รูปที่ 11 ช่องทางการติดต่อของโบรกเกอร์ HFM

ช่องทางการติดต่อ HFM

  • Live Chat ช่องทางที่รวดเร็วที่สุดครับ สามารถสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ทันที
  • Line: @hfmsupportth เหมาะสำหรับการสอบถามรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับกฎการเทรดและข้อมูลอื่นๆ
  • Email: supportth@hfm.com เหมาะสำหรับการส่งคำถามเกี่ยวกับเอกสารหรือต้องการข้อมูลที่เป็นทางการ

บริการลูกค้าในไทย ดีแค่ไหน?

  • ช่องทางติดต่อมีครบถ้วน ทั้ง Live Chat, Line และ Email
  • สะดวกในการติดต่อ สามารถกรอกข้อมูลแล้วเข้ารอแชทได้เลย
  • ความเร็วในการตอบกลับดีมาก – ตอบกลับแทบจะทันที ไม่ต้องรอนาน
  • แก้ปัญหาได้จริง เช่น เมื่อต้องเปลี่ยนอีเมล มีการส่งแนวทางแก้ปัญหามาให้
  • ซัพพอร์ตมีความรู้ ตอบคำถามเกี่ยวกับการเทรดได้ชัดเจน ไม่มีการถามซ้ำ
  • Live Chat อาจส่งให้ไปถามใน Line บางครั้งหากมีคำถามหลายข้อ ซัพพอร์ตใน Live Chat จะให้ติดต่อทาง Line เพื่อรับคำตอบที่ละเอียดกว่า
  • หากต้องการคำตอบแบบรวดเร็ว ให้ใช้ Live Chat แต่ถ้าต้องการคำตอบละเอียด ให้ติดต่อผ่าน Line

กฎและกติการที่ต้องรู้สำหรับเทรดเดอร์ HFM

  1. เทรดเฮจจิ้ง (Hedging) ได้
  2. Scalping ได้
  3. เงื่อนไขการเปลี่ยน Leverage สามารถเปลี่ยนเองได้สูงสุด 5 ครั้ง
  4. Stop Out 20%
  5. เทรดเพื่อเก็บค่า Swap ได้ แต่ทุกบัญชี มี Swap ฟรี 30 วัน (ยกเว้นบัญชีโบนัส)
  6. ใช้ EA Arbitrage ไม่ได้ ถือว่าผิดเงื่อนไขการใช้งาน (ปกติแล้ว A-book) จะให้เทรดได้นะครับ…อันนี้ต้องชั่งใจนิดนึง
  7. ส่งคำสั่งเทรดแบบถี่ๆ ได้ สูงสุด 500 คำสั่งซื้อ
  8. ใช้งาน EA ช่วงตลาดปิดได้ แต่กราฟจะหยุดทำงาน และไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้

สรุปข้อดี ข้อเสีย โดยผู้เชี่ยวชาญของ ThaiBrokerForex

✅ ข้อดีของ HFM

  1. มี License ที่น่าเชื่อถือ ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับโลก เช่น FCA (UK) และมีใบอนุญาตอื่นๆ ที่ครอบคลุมหลายภูมิภาค
  2. ดำเนินธุรกิจมานาน ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2010 มีประวัติยาวนานและเสถียร
  3. มีโค้ชสอนเทรดและไลฟ์วิเคราะห์ตลาด ให้ความรู้แก่เทรดเดอร์มือใหม่ได้ดี
  4. ได้รับรีวิวจาก ForexPeachArmy และ Trustpilot ในเกณฑ์ดี
  5. บัญชี Zero และ Pro มีต้นทุนการเทรดทองคำต่ำ เหมาะสำหรับคนที่เทรดทอง
  6. ระบบ Copy Trade ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง
  7. มี VPS ฟรี เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ EA
  8. Server เสถียร เทรดได้ลื่นไหล ไม่มีรีโควต
  9. มีโบนัสเงินฝาก ช่วยเพิ่มทุนสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการโบนัส
  10. ซัพพอร์ตตอบคำถามได้ดี แต่บางครั้ง Live Chat จะให้ติดต่อผ่าน Line แทน
  11. ฝากถอนวันเสาร์-อาทิตย์ได้ เพิ่มความสะดวกให้เทรดเดอร์
  12. เรทฝากถอนถูกมาก – ผลต่างเพียง -0.3% ซึ่งถือว่ายอมรับได้

❌ ข้อเสียของ HFM

  1. ไม่ได้เป็นสมาชิกของ The Financial Commission ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยคุ้มครองนักเทรด
  2. ความนิยมไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลก
  3. ไม่มีสินค้าที่ให้ Swap เป็นบวก จาก 15 สินค้าที่ทดสอบ ไม่มีตัวไหนที่ Swap เป็นบวกเลย
  4. Spread+Commission ในการเทรดทองคำเฉลี่ยค่อนข้างแพง แต่บัญชี Zero และ Pro มีต้นทุนต่ำกว่าบัญชีอื่น
  5. มีเหรียญคริปโตให้เทรดน้อย สินทรัพย์คริปโตที่มีให้เลือกยังจำกัด
  6. ต้นทุน Spread และ Commission ในการเทรดคริปโตค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ที่เน้นคริปโต
  7. โบนัสเงินฝากใช้งานได้เฉพาะบัญชีโบนัสเท่านั้น ซึ่งบัญชีนี้มี Spread และ Commission ที่แพงมาก
  8. ไม่มีช่องทางถอนเงินผ่านคริปโต แม้จะรองรับการฝากคริปโต แต่ไม่มีช่องทางให้ถอนออก

บทสรุปควรเลือก HFM หรือไม่?

HFM เป็นโบรกเกอร์ที่มีจุดแข็งในเรื่อง ความมั่นคง น่าเชื่อถือ และแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่เป็นอย่างมากครับ เพราะมี บัญชี Cent ให้ฝึกเทรด พร้อมกับ คอร์สสอนเทรดฟรี อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเทรดมืออาชีพที่มองหาโบรกเกอร์ที่มี ต้นทุนการเทรดต่ำ (Spread หรือ Commission) อาจต้องพิจารณาให้ดี เพราะ HFM มีต้นทุนอยู่ในระดับกลางถึงสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆมากเลยครับ

เอกสารอ้างอิง

สารบัญ

สารบัญบทความ