รีวิวโบรกเกอร์ JFX ดีไหม อัพเดทล่าสุด

รีวิวโบรกเกอร์ JFX คืออะไร

บริษัทครอสเอฟเอ็กซ์จำกัดเริ่มต้นธุรกิจในปี 2548 โดยจดทะเบียนเป็นผู้ซื้อขายล่วงหน้าทางการเงิน ภายหลังในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน บริษัทก็ได้เข้าร่วมสมาคมฟิวเจอร์สทางการเงิน ทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือและมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น บริษัทได้ขยับขยายกิจการในศูนย์ FX ในเดือนสิงหาคม 2550 และจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจเครื่องมือทางการเงินในเดือนกันยายนปีเดียวกัน

การย้ายสำนักงานใหญ่จากมินาโตะ-คู่ชิบะไปยังอากาซาก้า ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้มากขึ้น และในปี 2551 การเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น JFX จำกัด เพิ่มความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท

การพัฒนาและนำเสนอบริการการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่าน Matrix Trader ในปี 2553 และการให้บริการแอพพลิเคชันสำหรับ iPhone ในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มที่หลากหลายยิ่งขึ้น และในปี 2554 การเพิ่มจำนวนหลักที่แสดงใน JFX อัตราแลกเปลี่ยน และการเริ่มให้บริการถอนเงินทันทีในเดือนพฤศจิกายน ได้สร้างความพึงพอใจและความสะดวกให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ ในปี 2557 JFX ได้เริ่มประมวลผลการซื้อขายไบนารี่ออฟชั่น และในเดือนกรกฎาคม แอพพลิเคชันสำหรับ iPhone ก็พร้อมใช้งาน ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟนได้มากขึ้น

ปัจจุบัน JFX ถูกควบคุมและกำกับดูแลโดยหน่วยงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น โดยมีหมายเลขระเบียบคือ 1010001123038 ส่งผลให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของบริษัท

ข้อมูลประวัติบริษัท JFX Corporation

  • ชื่อบริษัท: เจเอฟเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น
  • วันก่อตั้ง: 11 กรกฎาคม 2548
  • ทุนจดทะเบียน: 317 ล้านเยน
  • ตัวแทนบริษัท: กรรมการผู้แทน โยชิฮิโกะ โคบายาชิ
  • ที่ตั้งบริษัท: 1-12-7 ชินโทมิ, ชูโอ-คุ, โตเกียว 104-0041 (อาคาร 3F Shintomi HJ)
  • โทรศัพท์: 03-5541-6401
  • แฟกซ์: 03-5541-6402
  • รายละเอียดธุรกิจ: ธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (ซื้อขายอนุพันธ์นอกเคาน์เตอร์ ฯลฯ)
  • เลขทะเบียน: สำนักงานการคลังท้องถิ่นคันโต (คินโช) หมายเลข 238
  • สมาคมสมาชิก: สมาคมฟิวเจอร์สการเงินแห่งประเทศญี่ปุ่น (หมายเลขสมาชิก 1503)

ธนาคาร

  • Sumitomo Mitsui Banking Corporation (รวมถึงทรัสต์)
  • ธนาคาร Mitsubishi UFJ
  • ธนาคาร PayPay
  • ธนาคาร Rakuten
  • ธนาคาร Seven
  • ธนาคาร SBI Sumishin Net
  • ธนาคาร Aeon
  • ธนาคาร GMO Aozora Net

รีวิวโบรกเกอร์ JFX ข้อมูลพื้นฐาน

  • ประเทศ/ภูมิภาคที่ลงทะเบียน: ญี่ปุ่น
  • ระเบียบข้อบังคับ: อยู่ภายใต้การกำกับดูแล
  • ปีที่ก่อตั้ง: 2550
  • เงินฝากขั้นต่ำ: ไม่มีข้อจำกัด
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:25
  • สเปรดขั้นต่ำ: 0.4 pips สำหรับ EURJPY
  • แพลตฟอร์มการซื้อขาย: MT4
  • สินทรัพย์การซื้อขาย: คู่สกุลเงินหลัก
  • วิธีการชำระเงิน: ฝากด่วน, โอนเงินผ่านธนาคาร
  • การสนับสนุนลูกค้า: โทรศัพท์, อีเมล์

รีวิวโบรกเกอร์ JFX ดีไหม

มีการรีวิวพูดถึงโบรกเกอร์ ว่า FX เป็นแพลตฟอร์มหลอกลวง เนื่องจากการเข้าสู่แพลตฟอร์ม FX จะถูกโน้มน้าวให้ฝากเงินเพื่อเริ่มการลงทุน หลังจากนั้น อาจได้กำไรจากการลงทุน แต่จะพบว่าไม่สามารถถอนเงินที่ได้กำไรนั้นออกมาได้

ทางแพลตฟอร์มจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนสถานะภาษีของคุณเป็นบุคคลธรรมดา จากนั้นคุณจะได้รับข้อความที่ระบุว่าหมายเลขบัตรธนาคารของคุณไม่ถูกต้อง และคุณจำเป็นต้องชำระเงินส่วนต่างเพื่อแก้ไขปัญหานี้

ในเวลาต่อมา คุณจะได้รับการแจ้งว่าเงินของคุณจะถูกโอนภายใน 2-24 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริง คุณจะไม่ได้รับเงินนั้น ยังจะพบว่าไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้แพลตฟอร์มได้ และฝ่ายบริการลูกค้าก็ไม่สามารถติดต่อได้

หากคุณแสดงความต้องการที่จะรายงานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุณจะได้รับคำตอบจากแพลตฟอร์มที่ไม่น่าพอใจ โดยพวกเขาจะแสดงท่าทีที่ไม่กลัวตำรวจ เนื่องจากพวกเขามีเงินที่จะใช้ในการจัดการกับปัญหานี้ และสุดท้ายคุณจะถูกลบออกจากการติดต่อทั้งหมด

สิ่งนี้ทำให้ชัดเจนว่าแพลตฟอร์ม FX ที่ได้ใช้งานนั้นเป็นแพลตฟอร์มหลอกลวง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฉ้อโกงเงินของคุณ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงนี้คือผู้หญิงที่คุณได้ติดต่อผ่าน WeChat

การไม่สามารถถอนเงินจากแพลตฟอร์ม Forex ถือเป็นวิธีกลโกงที่พบบ่อย ซึ่งนักลงทุนควรระมัดระวังเป็นพิเศษ กลโกงนี้มักจะเริ่มต้นด้วยการล่อลวงให้นักลงทุนฝากเงินเข้าสู่แพลตฟอร์ม และหลังจากนั้นนักลงทุนอาจเห็นกำไรที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากการลงทุน แต่เมื่อต้องการถอนเงินกลับพบว่าไม่สามารถทำได้

หลายครั้งที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจะมีข้ออ้างหลายอย่าง เช่น ข้อผิดพลาดทางเทคนิค หรือต้องการเอกสารเพิ่มเติม เพื่อหน delaying กระบวนการถอนเงิน และในที่สุดก็จะไม่สามารถติดต่อได้เลย นี่คือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่านักลงทุนอาจตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทาง Forex และควรรายงานเหตุการณ์นี้ให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินมากขึ้นในอนาคต

อัพเดทล่าสุดโบรกเกอร์ JFX

โบรกเกอร์ JFX ให้นักลงทุนเข้าถึงคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เช่น EURJPY, EURAUD, USDCAD, EURGBP และอื่น ๆ โดยข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์การซื้อขายอื่น ๆ ยังไม่ทราบในขณะนี้ JFX ไม่มีข้อจำกัดเงินฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชี ทำให้นักลงทุนสามารถเริ่มการซื้อขายด้วยจำนวนเงินที่ต้องการ

สเปรดของ JFX คือ 0.4 pips สำหรับ EURJPY, 1.5 pips สำหรับ CADJPY, 1.6 pips สำหรับ CHFJPY, 0.8 pips สำหรับ EURGBP, 1.5 pips สำหรับ USDCHF, 1.4 pips สำหรับ EURAUD, 1.4 pips สำหรับ GBP/AUD และ 1.8 pips สำหรับ USDCAD

ความสำคัญของ Spread ในการเทรด Forex

Spread ในการเทรด Forex เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรให้ความสนใจ เพราะมันเป็นตัวแทนของค่าใช้จ่ายในการเทรด คำว่า “spread” หมายถึงความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) ของคู่สกุลเงินที่เทรดเดอร์ต้องการเทรด

ในการเทรด Forex เรื่อง spread นับเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักในการทำธุรกรรม ค่าสเปรดที่ต่ำมีความสำคัญต่อนักลงทุนเนื่องจากมันหมายถึงค่าใช้จ่ายในการเทรดที่น้อยลง ซึ่งจะทำให้เทรดเดอร์สามารถได้กำไรได้ง่ายขึ้น เพราะการได้กำไรในการเทรดไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาตลาด แต่ยังขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย

ค่าสเปรดที่ต่ำจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นหรือ Scalping ซึ่งเป็นการเทรดที่ต้องการให้ได้กำไรจากการเคลื่อนไหวราคาที่เล็กน้อยในช่วงเวลาที่รวดเร็ว ในกรณีนี้ ค่าสเปรดที่ต่ำจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากตลาดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป

นอกจากนี้ ค่าสเปรดยังสามารถบ่งบอกถึงความผันผวนของตลาดได้ ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ค่าสเปรดมักจะขยายกว้างออกไป เพื่อสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้เทรดเดอร์ต้องรับมือกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในการเทรด ดังนั้นการทำความเข้าใจถึงค่าสเปรดและการติดตามความผันผวนของตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคนที่ต้องการเป็นผู้ชนะในการเทรด Forex

เลเวอเรจของโบรกเกอร์ JFX

เลเวอเรจโบรกเกอร์ JFX ในการเทรด Forex เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่ในทางกลับกัน ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน เลเวอเรจ คือ การใช้เงินยืมจากโบรกเกอร์ เพื่อเพิ่มปริมาณการเทรดที่สามารถทำได้ โดยการใช้เลเวอเรจจะทำให้นักลงทุนสามารถเปิดตำแหน่งที่ใหญ่กว่ามากโดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก

ที่ JFX นักลงทุนสามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:25 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถซื้อหรือขายสกุลเงินมูลค่าถึง 25 เท่าของเงินที่พวกเขามีอยู่ในบัญชี นี้เป็นเพราะว่าในญี่ปุ่นมีกฎหมายที่ควบคุมเลเวอเรจที่โบรกเกอร์สามารถเสนอให้กับลูกค้า โดยกำหนดให้เลเวอเรจสูงสุดที่โบรกเกอร์สามารถเสนอได้คือ 1:25 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินทุนในจำนวนมากของนักลงทุน

ในทำนองเดียวกัน การใช้เลเวอเรจสูงสุดที่มีให้ที่ JFX หรือโบรกเกอร์อื่นๆ ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนควรใช้เลเวอเรจสูงสุดเสมอไป การใช้เลเวอเรจสูงสุดจะเพิ่มความเสี่ยงในการเทรดและจะทำให้นักลงทุนต้องรับมือกับการสูญเสียเงินทุนจำนวนมากหากตลาดไม่เคลื่อนไหวในทิศทางที่ต้องการ ดังนั้นนักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงและใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังเพื่อปกป้องเงินทุน

ข้อดีโบรกเกอร์ JFX

  • การซื้อขายสินทรัพย์ที่หลากหลาย: JFX นำเสนอสินทรัพย์การซื้อขายที่หลากหลาย แม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการ
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ: นักลงทุนจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มนี้
  • รองรับแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT4: นี้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
  • สเปรดแคบ: สเปรดที่แคบหมายความว่านักลงทุนจะมีโอกาสได้กำไรมากขึ้น
  • ไม่มีข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำ: เทรดเดอร์สามารถเริ่มการซื้อขายด้วยเงินทุนที่น้อย
  • ดำเนินการอย่างรวดเร็ว: การดำเนินการซื้อขายและการดำเนินการอื่นๆ บนแพลตฟอร์มจะทำได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสียโบรกเกอร์ JFX

  • การซื้อขายสินทรัพย์ที่หลากหลายอย่างจำกัด: แม้ว่า JFX จะนำเสนอสินทรัพย์การซื้อขายที่หลากหลาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ
  • เลเวอเรจแบบอนุรักษ์นิยม: เทรดเดอร์ที่ต้องการใช้เลเวอเรจสูงกว่าที่มีอาจจะต้องมองหาตัวเลือกอื่น

ใบอนุญาต Financial Services Agency (FSA)

Financial Services Agency (FSA) ของญี่ปุ่นเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการกำกับดูแลระบบการเงินและปกป้องผู้บริโภค ทั้งในด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ การประกัน และสถาบันการเงินอื่นๆ นอกจากนี้ FSA ยังมีบทบาทในการสร้างกฎหมายและนโยบายที่จะกำหนดกรอบการทำงานของสถาบันการเงินและปกป้องผู้บริโภคอีกด้วย

FSA ดำเนินการตามหลักการและกฎระเบียบที่กำหนดโดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับสูงสุดที่ดูแลระบบการเงินของญี่ปุ่น ดังนั้น FSA จึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความเสถียรภาพและความปลอดภัยในระบบการเงินของประเทศ

การทำงานของ FSA รวมถึงการตรวจสอบและกำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex และผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนด โดยการทำงานนี้จะช่วยปกป้องผู้บริโภคและผู้ลงทุนจากการถูกหลอกลวงและการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น ในทางกลับกัน FSA ยังมีบทบาทในการส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมและการพัฒนาระบบการเงินที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

โดยรวมแล้ว FSA ของญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลระบบการเงินของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมดูแลในระดับสากลเพื่อให้แน่ใจว่าระบบการเงินทั่วโลกเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีความเสถียรภาพ