Trend เทรน Trend
ตอนนี้ ขอเปลี่ยนจาก การทดสอบอินดี้มาแนว ทฤษฏี บ้าง แบบพื้นฐาน เริ่มกันที่เรื่องของ เทรน คำว่าเทรนที่ได้ยินกันจนชินหู .. เทรน ขึ้น เทรนลง … จริง ๆ แล้ว ความหมายที่ แท้จริงคือ อะไร เท่าที่ผมค้นเจอที่อธิบายความหมายที่เข้าใจไม่ยากนักคือ แนวโน้มและทิศทางของ ราคาในช่วงขณะนั้น ๆ หรือช่วงเวลานั้น ที่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ( น่าจะใช้กราฟ เดย์เป็นขั้นต่ำในการดูเทรน ) แต่นักเทรดที่เก่ง ๆ บางท่าน อาจจะใช้กราฟต่ำกว่า กราฟเดย์มอง
เทรนก็อาจเป็นได้ กราฟชั่วโมง กราฟสามสิบนาที ไม่ต้องพูดกันเลย อาจจะยังนึกภาพไม่ออก เดี๋ยวเอาภาพมาแสดงประกอบ ตอนนี้ขอใช้คู่ GBP/AUD ละกัน วิ่งระเบิดเถิดเทิง ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ภาพที่ 1
กราฟ GBP/AUD ใช้ กราฟ Day ลักษณะเป็นเทรนขาขึ้น ชัดเจน มาก มาก .. จะทำ New Hight ขึ้นไปเป็น แนว แนว ขั้นบันได ตลอด คือ ทำสูงใหม่ แล้วอาจจะพักตัว แล้วก็ไปทำสูงใหม่ กว่าสูงเดิมอีกครั้ง ทันนะครับ ไม่งง นะ มาดูขาลงกันบ้าง ภาพที่ 2
กราฟขาลง ก็จะมาแนว แนว ทำ New Low แล้ว พักตัว แล้วลงไปทำ low ใหม่ที่ ต่ำกว่า low เดิม นั่นแหละ ขาลง มาดู เทรนอีกเทรน ภาพที่ 3
Sideway .. วิ่งแบบ ทิศทางไม่ชัด สรุปคือ เทรนในตลาด มี 3 แบบ
- Up Trend แบบขาขึ้น จะวิ่งขึ้นอย่างเดียว (เหมาะกับการเข้าเทรด)
- Down Trend แบบขาลงจะวิ่งลงอย่างเดียว (เหมาะกับการเข้าเทรด)
- Sideway Trend แบบขนานเคลื่อนตัวไปทางด้านข้าง แบบฟันปลา ขึ้นๆลงๆ พูดง่ายๆกราฟวิ่งไม่สวย ไม่มีแนวโน้ม (ตลาดช่วงนี้ นักลงทุนมักจะขาดทุนเสมอๆ) Sideway แยกออกได้เป็น sideway ในช่วง (พักตัว) เทรนขาขึ้น sideway ในช่วง(พักตัว)เทรนขาลง
ก่อนที่เราจะมาฝึกตีเส้น เทรน ไลน์ ให้มาทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันก่อน
- ในเทรนขาขึ้น จะเริ่มจาก ต่าสุดไปสูงใหม่ ได้สูงใหม่แล้วก็จะมีการ (พักตัว) ลงมาพักฐาน(เรียกว่า HL) เมื่อรู้แล้วว่าพักตัวก็จะเริ่มลากเทรนขาขึ้นได้
- ในเทรนขาลง จะเริ่มจาก สูงสุดไปต่าใหม่ ได้ต่าใหม่แล้วก็จะมีการ (พักตัว) ขึ้นไปพักฐาน(เรียกว่า LH) เมื่อรู้แล้วว่าพักตัวก็จะเริ่มลากเทรนขาลงได้
- ส่วนการลากในกรอบ sideway นั่น จะมีหลายแบบด้วยกัน แบบ ขนาน แบบสามเหลี่ยม แบบกว้างไปแคบ บีบตัว ฟันปลา มีหลายรูปแบบ
ทีนี้ ก็มาถึงการฝึกตีเส้น เทรน กัน เพื่อให้มองกราฟ ง่าย และสะดวกขึ้น
ภาพที่ 4
การตีเส้น เทรนไลน์ ขาขึ้น มาดูการตีเส้นเทรนไลน์ขาลง ในภาพที่ 5
การตีเส้น เทรนไลน์ ขาลง โดยส่วนมากขาลงจะตีเส้นค่อนข้างง่ายกว่า เนื่องจากคู่นี้ เวลาลง จะลงแบบ ดิ่งนรก
ภาพที่ 6 ตีเส้น เทรนไลน์ Sideway ตีง่ายจริง ๆ แต่การเทรด ไม่ง่าย เลย
- เทรนขาขึ้นสามารถลากเทรน ได้สามช่วงเวลาคือ เทรนขาขึ้นระยะสั้น เทรนขาขึ้นระยะกลาง เทรนขาขึ้นระยะยาว
- เทรนขาลงสามารถลากเทรน ได้สามช่วงเวลาคือ เทรนขาลงระยะสั้น เทรนขาลงระยะกลาง เทรนขาลงระยะยาว
- ส่วนกรอบ sideway ไม่ควรเข้าเทรด เสียเวลานานกว่าจะหลุดกรอบ ส่วนใหญ่แล้วมักจะคืนกำไร(ขาดทุน)เป็นส่วนใหญ่ วิธีมองกรอบ รอการทะลุกรอบได้แล้วมีแนวโน้มขึ้นหรือลง ค่อยพิจารณาซื้อขาย ตรงนี้แหละ ที่ตัดสินใจผิดพลาด บ่อย
ในเทรนขาขึ้นขาลงนั่นจะมีแนวรับและแนวต้านเสมอ ๆ อะไรคือแนวรับแนวต้าน
- แนวรับ = Support = S แนวรับคือกราฟราคาวิ่งลงมาทาฐานแล้วลงต่อไปไม่ได้
- แนวต้าน = Resistance = R แนวต้านคือกราฟราคาวิ่งขึ้นไปชนทาฐานแล้ววิ่งขึ้นไปต่อไม่ได้
ในเทรนขาขึ้นนั่นกราฟจะวิ่งขึ้นไปจนสุดจนกว่าจะลง รู้ได้ไงว่าลง เมื่อลากเทรนขาขึ้นแล้วหลุด เทรนขาขึ้นนั่นแล้วก็จะลง (เปลื่ยนทิศทาง) ในเทรนขาลงนั่นกราฟจะวิ่งลงไปจนสุดจนกว่าจะขึ้น รู้ได้ไงว่าขึ้น เมื่อลากเทรนขาลงแล้วหลุดเทรนขาลงนั่นแล้วก็จะขึ้น (เปลื่ยนทิศทาง)
ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อมีเทรน จนหมดเทรน มักจะเกิด Sideway ก่อนเสมอๆ เปรียบ เสมือนการวิ่งมานานๆ แล้วเหนื่อยก็เลยต้องหยุดพัก (เกิด sideway) เมื่อลากกรอบ sideway ได้หลุดกรอบไปแล้วก็จะวิ่งไปต่อ (แสดงว่าเกิดเป็นเทรนแล้ว)
ภาพประกอบ จาก internet
เทรนสามารถบอกจังหวะเข้า ซื้อ ขายได้ ตามระดับ แนวรับ แนวต้าน เทรนสามารถบอกจังหวะหมดเทรนของขาขึ้นขาลง ของรอบนั้นๆ แล้วช่วยให้มองภาพรวมได้ง่ายขึ้น เทรนยังช่วยให้ขาดทุนได้น้อยลง เมื่อรู้ว่าเข้าเทรดผิดทาง (สำคัญต้องมองแนวโน้มให้ออก รู้ว่าผิด ทางก็มีวินัยโดยการกล้า cut loss) ตรง cutloss นี่แหละ หลาย ๆ คน ถือทน จนล้างพอร์ต แต่พอ บวก ยิก ยิก ปิด
ส่งท้าย … ความชันของเทรนขึ้นหรือลงนั้น ยิ่งชันมากยิ่งหลุดเทรนเร็ว ยิ่งชันน้อยยิ่งวิ่งขึ้นลงนาน เมื่อลากเทรนแล้ว ฝึกซูมกราฟ มองภาพกว้างด้วยครับว่าเราเล่นยังไง บางครั้งมีเทรนแต่ภาพใหญ่ sideway พบกันใหม่ ตอนต่อไปครับ
ทีมงาน : thaiforexbroker.com