Double Tops และ Double Bottoms

Double TopsและDouble Bottoms

Double TopsและDouble Bottoms

                  Price action patternอีกอย่างที่เทรดเดอร์รู้จักกันดีและพยามเทรดกันมากที่สุดอีกรูปแบบหนึ่งน่าจะเป็นDouble TopsและDouble Bottomsซึ่งเป็นรูปแบบprice actionที่เห็นได้บ่อยมากที่สุดก็ว่าได้เพราะเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นตอนเปลี่ยนเทรนและเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ขาใหญ่สามารถใช้ประโยชน์จากพวกtrapped tradersเพื่อใช้ในการเร่งราคา

                

                ถ้าดูจากรูปแบบก็ไม่ยุ่งยากเท่าไรแค่พยายามทำความเข้าใจกลไกของออเดอร์หรือตลาดที่เกิดสิ่งนี้ เนื่องจากdouble topsและdouble bottomsเป็นรูปแบบreversal patternsก็จะเกิดหลังจากที่ราคาวิ่งไปทางใดทางหนึ่งยิ่งแรงยิ่งดีจะทำให้เกิดpatternsจากภาพด้านบนท่านจะเห็นว่าDouble topsประกอบด้วย3ส่วนหลักๆ คือเลข 1 2 3 เลข 1คือหลังจากที่ราคาวิ่งทำเทรนมาแรงๆแต่พอไปถึงเลข1แล้วราคาหยุดและลงสาเหตุเป็นเพราะขาใหญ่ที่เปิดเทรดเทรนแรงๆนั้นปิดทำกำไรพอราคาย่อตัวลงมาตรงเลข2

                  เพราะว่าราคาทำเทรนขึ้นมาพวกtrend tradersก็จะเปิดเทรดตรงจุดที่ราคาเบรกขึ้นไปแล้วทำhighที่เลข1แต่พอดันราคาขึ้นไปที่เลข3 ราคากลับเด้งแถวพื้นที่เดิมอีกคือเลข1แต่ราคาลงอีกเพราะsell pressureจากเทรดเดอร์ที่เห็นราคาเด้งจากเลข1 และจากพวกที่เทรดที่เลข2นั้นปิดทำกำไรและขาใหญ่ก็กลับเข้าเทรดอีกเลยทำให้ราคาลงจนราคาเบรคเลข 2 พอราคาเบรดเลข2ก็เป็นการยืนยันว่าDouble Topsเกิดขึ้นโอกาสเทรดจะเกิดขึ้นเมื่อราคากลับมาเพื่อเทสตรงเบรด

                  เพราะจุดนี้มีพวกtrapped tradersและพอราคาเบรคข้อมูลเปลี่ยนแปลงเทรดเดอรที่รอเข้าก็จะหันมาสนใจทางเปิดsellมากขึ้นหรือถ้ามองหลักการทำเทรนท่านจะพบว่าที่เกิดDouble Topsเพราะราคาไม่สามารถทำHigher HighและHigher Lowได้และยิ่งกว่านั้นHigher Lowสุดท้ายก็ยังโดนเบรกอีก

                หลักการที่ทำให้Double Topsทำงานดีคือพื้นที่ที่ราคาเด้งหรือrejectionที่เลข1และเลข2 ต้องอยู่แถวพื้นที่เดียวกันและมีระยะเวลาห่างจากเลข1ก่อนราคาจะวิ่งมาที่จุดเดิมแล้วrejectionอีกรอบก็จะดีเพราะต้องการจำนวนเทรดเดอร์ที่อยู่ในตลาดซึ่งจะเพิ่มเรื่อยๆพอราคาเบรดตรงที่เลข2(ต้องเบรค)raped tradersจะอยู่ในโครงสร้างของDouble topsชดๆนั้นๆเยอะจะทำให้ขาใหญ่ใช้ตรงนี้ในการปั่นราคาให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ง่ายเพราะเทรดเดอร์พวกนี้ถ้าราคาวิ่งสวนพวกเขาพวกเขาต้องออกจากตลาดเพื่อจำกัดความเสี่ยง เลยทำให้รูปแบบDouble Topsนั้นทำงานได้ดีส่วนที่เป็นDouble Bottomsก็เป็นไปในทางตรงกันข้ามกัน

                ตัวอย่างนี้เป็นDouble Bottomsราคาทำlowsที่เดียวกันก่อนจะทำlow ครั้งที่2ราคาเด้งขึ้นมาเพื่อเคลียร์supplyและราคาก็ลงไปอีกเปิดโอกาสให้ขาใหญ่เปิดออเดอร์เพื่อเข้าตลาดอีกรอบตรงที่เลข3ราคาขึ้นมาเบรดและปิดบนทำให้พวกtrapped tradersแถวเลข2และต่ำกว่าเลข2 จำต้องออกจากตลาดก่อนราคากลับขึ้นตอนที่เลข3ราคามาเทสไม่กี่บาร์เปิดโอกาสให้เทรดด้วยการใช้ประโยชน์จากพวกtrapped tradersและราคาขึ้นไปทำnew highอีกสร้าง swap demandก่อนทำnew highพอราคามาเทสที่swap demandใกล้ๆหลังจากที่ราคาเบรคเลข2ที่มีtrapped traders เลยทำให้มีโอกาสเปิดเทรดอีกรอบที่เลข 5

                ตัวอย่างนี้ Double Tops อีกอย่างหนี่งที่ต้องใส่ใจตอนราคาวิ่งไปทำ Top ที่เลข 3 ราคาวิ่งขึ้นไป มีการ retracement ด้วยซึ่งเป็นการเคลียร์ demand ใหม่ที่เกิดขึ้น ถ้าเห็นตรงนึ้จะทำให้ราคาตอนลงมายืนยัน Double Tops ตอนเบรคพื้นที่เลข 2 เร็ว ถ้าเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มองเรื่อง path of least resistance ออกก็จะกล้าเปิดเทรด sell orders ตรงนี้ก่อนด้วย แล้วค่อยไปเทรดตาม setup ของ double tops อีกที ตัวแปรหนึ่งที่น่าจะช่วยให้ double tops ทำงานได้ดีคือ เป็น patterns ที่เทรดเดอรส่วนมากรู้จักแบบ head and shoulders เลยทำให้เทรดเดอร์มากมายอยากเทรด ทำให้เกิด liquidity เยอะแถว price structure ของ chart patterns ทั้ง 2 รูปแบบนี้

                การเข้าโจโครงสร้างราคาและ price movement นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น พร้อมกับเข้าใจว่าถ้าโครงสร้างราคาเปลี่ยนไป ทำให้เทรดเดอร์พวกที่เปิดช่วงเวลานั้นๆ เทรดเดอร์ที่เทรดทางฝั่งไหนจะเดือดร้อน และจุดไหนเป็นจุดที่จะเดือดร้อนสุด ยิ่งถ้ามีระยะเวลาประกอบ เช่นราคาวิ่งอยู่ในกรอบนั้นเป็นการสะสม open positions จากเทรดเดอร์งประเภทต่างๆ ไปในตัว พอราคาเปลี่ยนไป ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์จำนวนพวก trapped traders เลยเยอะ นั่นเป็นสิ่งที่ขาใหญต้องการสำหรับการเข้าเทรดและจัดการออเดอร์ เพราะอย่าลืมว่าออเดอร์ที่มาจากพวก trapped traders เป็นออเดอร์ที่ “ต้อง” เกิดเลยทำให้ออเดอร์พวกนี้ขาใหญ่สามารถใช้ประโยชน์ได้ง่าย

                ความเป็นไปได้สูงที่จะมี market orders จากเทรดเดอร์ที่รอเข้าเทรดและเทรดเดอร์ที่จำต้องออกจากการเทรดถ้าราคาเปลี่ยนทาง ก็ต่อเมื่อราคาเบรคเลข 2 เพราะราคาเบรคเป็นการบอกถึงว่าขาใหญ่เข้าเทรดตรง momentum ที่เกิดขึ้นจริง อย่างภาพด้านบนก็เป็นการเข้าเทรดที่จุด A

ทีมงาน : www.thaiforexbroker.com