BOC Rate Statement สัญญาณชี้นำเศรษฐกิจแคนาดา

หลายคนคงเคยได้ยินหรือได้อ่านประกาศสำคัญจากองค์กรการเงินและเศรษฐกิจระดับโลกมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น FED หรือ ธนาคารกลางยุโรป และอีกหนึ่งในการประกาศที่ทรงอิทธิพลที่สุดที่สามารถกำหนดทิศทางของตลาดต่างๆ คือ “BOC Rate Statement” หรือแถลงการณ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดา มันมีความสำคัญต่อโลกและเศรษฐกิจของแคนาดายังไง คำตอบรออยู่ในบทความนี้แล้ว


ฉบับย่อโดย Thaiforexbroker.com

  • BOC Rate Statement เป็นแถลงการณ์สำคัญจากธนาคารกลางแคนาดา ที่ประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
  • เนื้อหาหลักใน BOC Rate Statement ประกอบด้วย การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เหตุผลสนับสนุน แนวโน้มเศรษฐกิจและสัญญาณในอนาคต
  • ผลกระทบของการปรับอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจ การปรับขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้กู้ยืมยากขึ้น ธุรกิจอาจลงทุนน้อยลงและค่าเงินแคนาดาแข็งค่า ในขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยมีผลตรงกันข้าม
  • สามารถติดตาม BOC Rate Statement ได้จากเว็บไซต์ทางการของธนาคารกลางแคนาดา สำนักข่าวทางการเงิน และแพลตฟอร์มปฏิทินเศรษฐกิจ

ทำความรู้จักกับ BOC Rate Statement

  • BOC Rate Statement คือ แถลงการณ์ที่ออกโดยธนาคารกลางแคนาดา (Bank of Canada หรือ BOC) ซึ่งเป็นประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและนโยบายของประเทศ
  • ธนาคารกลางแคนาดา มีหน้าที่หลักในการดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน อีกหนึ่งในหน้าที่ก็คือการประกาศแถลงการณ์ BOC Rate Statement นั่นเอง
  • โดยทั่วไปแล้ว BOC Rate Statement จะมีการประกาศ 8 ครั้งต่อปี ในวันพุธที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เป็นประจำทุกปี เช่นในปี 2024 นี้จะมีประกาศในวันที่
    • 24 มกราคม
    • 6 มีนาคม
    • 10 เมษายน
    • 5 มิถุนายน
    • 24 กรกฎาคม
    • 4 กันยายน
    • 23 ตุลาคม
    • 11 ธันวาคม
ตารางกำหนดหมายการแถลงการณ์ของ BOC
ตารางกำหนดหมายการแถลงการณ์ของ BOC จะแถลงการณ์ ปีละ 8 ครั้ง ซึ่งในทุกๆ ครั้งจะแถลงอัตราดอกเบี้ย แต่นโยบายอื่นๆ จะแถลงแบบเว้นช่วง

เนื้อหาหลักใน BOC Rate Statement มีอะไรบ้าง?

BOC Rate ไม่ใช่แค่ประกาศตัวเลขดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว แต่เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ธนาคารกลางแคนาดาต้องการประกาศออกมาเพื่อสื่อสารกับตลาดและผู้ที่สนใจ ลองมาดูกันว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นบ้าง

  1. การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย : BOC จะประกาศชัดเจนว่าจะปรับขึ้น ลดลง หรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจดูเล็กน้อย เช่น ปรับขึ้น 0.25% แต่มีผลกระทบในวงกว้างอย่างมาก
  2. เหตุผลในการตัดสินใจ : การเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยมีเหตุผลรองรับเสมอ โดย BOC จะอธิบายปัจจัยต่างๆ ที่นำไปสู่การตัดสินใจ เช่น
    • อัตราเงินเฟ้อ : ถ้าสินค้าแพงขึ้นเร็วเกินไป อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
    • การเติบโตทางเศรษฐกิจ : ถ้าเศรษฐกิจซบเซา อาจต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการกู้ยืม การลงทุน
    • ตลาดแรงงาน : ถ้าคนว่างงานเยอะ อาจต้องลดดอกเบี้ยเพื่อให้ธุรกิจลงทุนมากขึ้น จ้างงานมากขึ้น
  3. แนวโน้มเศรษฐกิจ : BOC จะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจแคนาดา พวกเขาจะบอกว่าเศรษฐกิจน่าจะโตเร็วแค่ไหน มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่ต้องจับตา
  4. สัญญาณบอกอนาคต : BOC จะบอกใบ้ว่าพวกเขามีแนวโน้มจะทำอะไรต่อไปกับอัตราดอกเบี้ย เช่น
    • ถ้าบอกว่าจะ “ผ่อนคลายนโยบายการเงิน (ease monetary policy)” แปลว่าอาจลดดอกเบี้ยอีกในอนาคต
    • ถ้าบอกว่าจะ “เข้มงวดนโยบายการเงิน (tighten monetary policy)” แปลว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต
    • หรือใช้คำอื่นๆ ที่มีความหมายคล้ายกัน เช่น คงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน หรือ เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เนื้อหาใน BOC Rate Statement
เนื้อหาใน BOC Rate Statement จะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยพร้อมเหตุผล

ประเภทของอัตราดอกเบี้ยที่ปรากฏใน BOC Rate Statement

ใน BOC Rate Statement หรือแถลงการณ์จากธนาคารกลางแคนาดา จะมีการพูดถึงอัตราดอกเบี้ยหลักๆ อยู่ 2 แบบด้วยกัน

  1. อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    • คืออัตราดอกเบี้ยที่สำคัญที่สุด คิดง่ายๆ ว่าเป็นเหมือน “อัตราดอกเบี้ยต้นแบบ” ที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะใช้เป็นเกณฑ์ในการคิดดอกเบี้ยเงินกู้หรือเงินฝาก
    • ถ้าธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นหรือลง ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายหรือได้รับจากธนาคารก็มีแนวโน้มจะเปลี่ยนตามไปด้วย
  2. อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
    • อัตรานี้เป็นเหมือนขีดจำกัดที่ธนาคารกลางมองว่าไม่ควรลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปต่ำกว่านี้
    • โดยปกติอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะอยู่สูงกว่า 0 เล็กน้อย เพื่อให้ธนาคารกลางยังมีช่องว่างในการลดดอกเบี้ยลงได้อีก หากจำเป็นจริงๆ

บางครั้งใน BOC Rate อาจมีการพูดถึงอัตราดอกเบี้ยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อัตราเงินเฟ้อที่คาดการณ์ไว้ หรืออัตราดอกเบี้ยระยะยาวในตลาดด้วย


เมื่อ BOC ปรับอัตราดอกเบี้ย จะเกิดอะไรขึ้น?

การปรับอัตราดอกเบี้ยของ BOC ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจทั้งแคนาดาและต่อโลกในหลายมิติ เรามาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อ BOC ขยับดอกเบี้ยทั้งขึ้นและลง

เมื่อ BOC ปรับ“ขึ้น”อัตราดอกเบี้ย

  • ผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน
    • กู้ยากและแพง ใช้จ่ายน้อยลง: ดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น ทำให้คนคิดหนักก่อนกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแม้แต่รูดบัตรเครดิต จนทำให้การใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจลดลง
    • ออมมากขึ้น: ดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้น คนมีแรงจูงใจในการออมเงินมากขึ้น แทนที่จะนำไปใช้จ่าย
    • ภาพรวมการบริโภคโดยรวมมีแนวโน้มลดลง เศรษฐกิจอาจชะลอตัว
  • ผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
    • ลงทุนน้อยลง: ดอกเบี้ยสูงขึ้น ต้นทุนการกู้ยืมเพื่อลงทุนของธุรกิจก็สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจอาจชะลอหรือลดการลงทุน
    • กำไรลดลง: ธุรกิจที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ก็เท่ากับว่ามีหนี้สูงขึ้น กำไรก็อาจลดลง
    • ภาพรวมการลงทุนและการขยายธุรกิจอาจชะลอตัว
  • ผลกระทบต่อตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
    • หุ้นอาจร่วง: นักลงทุนอาจเทขายหุ้น เพราะมองว่าธุรกิจมีแนวโน้มทำกำไรได้น้อยลง
    • ตราสารหนี้ราคาตก: เมื่อดอกเบี้ยใหม่สูงขึ้น ราคาตราสารหนี้เดิมที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าจะปรับตัวลดลง
  • ผลกระทบต่อตลาด Forex โดยเฉพาะแคนาดา
    • ค่าเงินแคนาดาแข็งค่า: ดอกเบี้ยสูงขึ้น ดึงดูดเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุน ทำให้ค่าเงินแคนาดาแข็งค่าขึ้น
    • ส่งออกอาจลดลง: สินค้าแคนาดาแพงขึ้นสำหรับชาวต่างชาติ ทำให้การส่งออกอาจลดลง
    • ภาพรวมมีทั้งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจแคนาดา
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้การกู้ยืมเงินมีต้นทุนสูงขึ้น เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวและเป็นการควบคุมเงินเฟ้อไปในตัว ในด้านอื่นๆ เช่นค่าเงินของแคนาดาก็จะแข็งค่า

เมื่อ BOC ปรับ“ลด”อัตราดอกเบี้ย

  • ผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน
    • กู้ง่าย ใช้จ่ายมากขึ้น: ดอกเบี้ยเงินกู้ถูกลง คนกล้ากู้เงินมาใช้จ่าย และลงทุนมากขึ้น
    • ออมน้อยลง: ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำลง คนไม่อยากออมเงิน นำไปใช้จ่ายแทน
    • ภาพรวมการบริโภคโดยรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
    • ลงทุนมากขึ้น: ดอกเบี้ยถูกลง ต้นทุนการกู้ยืมเพื่อลงทุนของธุรกิจก็ถูกลง ทำให้ธุรกิจกล้าลงทุนและขยายกิจการ
    • กำไรเพิ่มขึ้น: ธุรกิจที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ก็เท่ากับมีหนี้ลดลง กำไรก็อาจเพิ่มขึ้น
    • ภาพรวมการลงทุนและการขยายธุรกิจมีแนวโน้มคึกคัก
  • ผลกระทบต่อตลาดตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
    • หุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น: เมื่อดอกเบี้ยลดลง ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทก็ลดลง ทำให้บริษัทมีโอกาสทำกำไรเพิ่มขึ้น นักลงทุนก็มีความเชื่อมั่นและหันมาลงทุนในหุ้นมากขึ้น และนักลงทุนก็มองหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงิน ซึ่งตลาดหุ้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ
    • ราคาตราสารหนี้ปรับตัวสูงขึ้น: เมื่อดอกเบี้ยในตลาดลดลง ผลตอบแทนของตราสารหนี้เดิมที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่จะดูน่าสนใจมากขึ้น ทำให้นักลงทุนต้องการซื้อตราสารหนี้เหล่านี้
  • ผลกระทบต่อตลาด Forex โดยเฉพาะแคนาดา
    • ค่าเงินแคนาดาอ่อนค่า : ดอกเบี้ยต่ำลง เงินทุนต่างชาติอาจไหลออก ทำให้ค่าเงินแคนาดาอ่อนค่าลง
    • ส่งออกอาจเพิ่มขึ้น : สินค้าแคนาดาถูกลงสำหรับชาวต่างชาติ ทำให้การส่งออกอาจเพิ่มขึ้น
การปรับลดดอกเบี้ย
ในทางกลับกันการปรับลดดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายและกู้ยืมถูกลง อาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งออก แต่ค่าเงินแคนาดาจะอ่อนค่าลง

การปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยไม่มีข้อดีหรือข้อเสียที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนั้นๆ

  • การลดดอกเบี้ย เหมาะสำหรับช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา ต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน
  • การขึ้นดอกเบี้ย เหมาะสำหรับช่วงที่เศรษฐกิจร้อนแรง มีเงินเฟ้อสูง ต้องการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับการติดตาม BOC Rate Statement

ทีมงานได้รวบรวมแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีประโยชน์มาให้ผู้อ่านทุกท่าน เพื่อที่จะได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับติดตาม BOC Rate Statement ได้สะดวก

  • เว็บไซต์ทางการของธนาคารกลางแคนาดา (Bank of Canada)
    • นี่คือแหล่งข้อมูลหลักและเชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับ BOC Rate Statement และข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
    • ทุกคนสามารถค้นหาแถลงการณ์, บันทึกการประชุม, ตารางการประกาศ, และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินของแคนาดา
  • สำนักข่าวทางการเงิน
    • เว็บไซต์ข่าวเศรษฐกิจและการเงินของทั่วโลก เช่น Bloomberg, Reuters, และ Wall Street Journal
    • เว็บไซต์เหล่านี้มักจะรายงานข่าวเกี่ยวกับ BOC Rate Statement อย่างรวดเร็วและครอบคลุม รวมถึงบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
  • แพลตฟอร์มปฏิทินเศรษฐกิจ
    • แพลตฟอร์มปฏิทินเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงมักจะมีข้อมูลหรือข่าวสำคัญจากทั่วโลก รวมถึง BOC Rate Statement เช่น ForexFactory , Investing.com
    • แพลตฟอร์มการซื้อขาย Forex หลายแพลตฟอร์มมีปฏิทินเศรษฐกิจที่รวมถึงวันที่ประกาศ BOC Rate Statement และมักจะมีการวิเคราะห์สั้น ๆ เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาด
  • แพลตฟอร์มที่เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค
    • TradingView ค้นหาคำว่า “CAINTR” หรือ “Canada Interest Rate” มีข้อมูลกราฟย้อนหลัง ตั้งแต่ปี1990 ถึง ปัจจุบัน
ForexFactory
การประกาศตัวเลขดอกเบี้ยจากเว็บไซต์ ForexFactory ซึ่ง BOC จะประกาศออกมาพร้อม OverNight Rate การประกาศทั้งสองอย่างพร้อมกันช่วยให้ได้รับข้อมูลที่สำคัญและครบถ้วนในเวลาเดียวกัน

BOC Rate Statement และ Overnight Rate เกี่ยวข้องกันอย่างไร

  • BOC Rate Statement คือประกาศจากธนาคารกลางแคนาดา ที่จะบอกว่าพวกเขาตัดสินใจจะทำอะไรกับอัตราดอกเบี้ยหลักของประเทศ
  • Overnight Rate คือ “อัตราดอกเบี้ย” ที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ใช้ในการกู้ยืมเงินระยะสั้นข้ามคืนระหว่างกัน คิดง่ายๆ เหมือนเป็นดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกันเอง
  • ซึ่งจากที่เห็นข้อมูลตามเว็บไซต์ข่าวเศรษฐกิจ 2 ข้อมูลนี้มักจะประกาศพร้อมๆ กัน นั่นก็เพราะ
    • BOC Rate Statement เป็นตัวกำหนด Overnight Rate การประกาศ “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย” ก็คือเป้าหมายของ Overnight Rate นั่นเอง
    • Overnight Rate ขยับตาม BOC Rate Statement เมื่อประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน BOC Rate Statement ธนาคารพาณิชย์ก็จะปรับ Overnight Rate ให้ขยับตามไปด้วย

สรุปก็คือ BOC Rate Statement เป็นเหมือนการประกาศอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางแคนาดาเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงิน ส่วน Overnight Rate เป็นเครื่องมือที่ธนาคารกลางใช้ในการดำเนินนโยบายนั้นๆ ทั้งสองสิ่งจึงมีความเชื่อมโยงกันโดยปริยาย


ตัวอย่าง BOC Rate Statement ที่ผ่านมา

BOC ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.25%

เหตุผลที่ทาง BOC ได้อธิบายในการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ สาเหตุมาจากเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นโยบายนี้เป็นไปตามการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในไตรมาสที่สอง โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตกว่าที่คาดการณ์ แต่ตลาดแรงงานชะลอตัว ขณะที่ยูโรโซนได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและบริการอื่น ๆ แต่ภาคการผลิตยังคงอ่อนแอ ในขณะที่จีนเผชิญกับความต้องการภายในประเทศที่อ่อนแอ

  • ในแคนาดา เศรษฐกิจเติบโต 2.1% ในไตรมาสที่สอง นำโดยการใช้จ่ายของรัฐบาลและการลงทุนทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดเบื้องต้นบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจซบเซาในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม
  • ตลาดแรงงานยังคงชะลอตัว โดยการจ้างงานแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าการเติบโตของค่าจ้างจะยังคงสูงเมื่อเทียบกับผลผลิต
  • อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ 2.5% การตัดสินใจนี้มีขึ้นเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อโดยรวมผ่อนคลายลง แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่อาศัยและบริการบางประเภท
  • ด้วยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางจึงลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลกระทบและตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต

ผลกระทบจากการประกาศตัวเลขดังกล่าว

ผลกระทบจากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางแคนาดาในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดต่างๆ ดังนี้

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

  • กระตุ้นเศรษฐกิจ : การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม ทำให้ธุรกิจและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
  • ควบคุมเงินเฟ้อ : ในสถานการณ์ของแคนาดาที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่และเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อที่อาจเกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • ผลกระทบต่อตลาดแรงงาน : อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอาจช่วยกระตุ้นการจ้างงานในระยะยาว

ผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์

  • ค่าเงินดอลลาร์แคนาดา : คาดว่าค่าเงินดอลลาร์แคนาดาจะอ่อนค่าลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงจูงใจน้อยลงในการถือครองเงินดอลลาร์แคนาดา
  • ตลาดที่อยู่อาศัย : การลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้การกู้ยืมเพื่อซื้อบ้านมีราคาถูกลง ซึ่งอาจกระตุ้นความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัย แต่ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย
  • ตลาดหุ้น : การลดอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงจะช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน

วิดีโอประกาศนโยบายการเงินจาก BOC

มีตัวอย่างวิดีโอ ธนาคารกลางแคนาดาอธิบายการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเหมือนอย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า BOC Rate Statement จะมีคำอธิบายถึงเหตุผลในการเลือกปรับอัตราดอกเบี้ยในแต่ละครั้ง ซึ่งในวิดีโอก็จะเป็นอธิบายเหตุผลเหล่านี้

  • Focus นาทีที่ 01:22 อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ที่ 5%
  • Focus นาทีที่ 01:50 ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ
  • Focus นาทีที่ 04:14 บริบทเศรษฐกิจโลก
  • Focus นาทีที่ 05:08 แนวโน้มตลาดแรงงาน
  • Focus นาที่ 09:04 ความกังวลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
  • Focus นาที่ 21:41 แนวโน้มเศรษฐกิจโดยไม่มีการหยุดชะงักครั้งใหญ่

สรุป

ในโลกของเราไม่ได้มีเพียง FED จากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่จะมีการประกาศที่ทรงอิทธิพลต่อโลก แต่ยังมี BOC Rate Statement หรือแถลงการณ์จากธนาคารกลางแคนาดา ก็เป็นอีกการประกาศที่ส่งผลต่อหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะค่าเงินดอลล่าห์แคนาดา (CAD) ที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจและคู่ค้าของประเทศ

ซึ่งหากใครที่อยู่ในวงการธุรกิจหรือการลงทุนที่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับค่าเงินดอลล่าห์แคนาดาโดยตรง BOC Rate Statement ถือว่ามีความสำคัญมากทีเดียว ดังนั้นการติดตามข้อมูล , การรู้แหล่งข่าวรวมถึงเหตุผลและแนวโน้มอนาคตจากทาง BOC จะทำให้เราได้เตรียมตัวรับมือกับแรงกระเพื่อมของแถลงการณ์ในแต่ละครั้งได้เป็นอย่างดี

 

สารบัญบทความ