เลือกคู่เงิน forex
แม้ว่าตลาด forex มีคู่เงินหลากหลายให้เลือกเทรดก็จริง และสามารถเทรดได้ 24 ชั่วโมงต่อวันและ 5 วันต่อสัปดาห์ แต่การเทรดไม่ใช่แค่การเปิดออเดอร์เพื่อเทรด ต้องเข้าใจว่า เมื่อเปิดเทรดท่านต้องการให้ราคาวิ่งนั้นหมายความว่ายังไง ท่านต้องการ volatility สำหรับคู่เงินที่ต้องการเทรด และเรื่อง volatility แต่ละวันไม่เหมือนกัน แต่ละช่วงก็ไม่เหมือนกันอีก และมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่มีผลกระทบต่อค่าเงินแต่ละวัน ทำให้กระทบต่อการวิ่งของคู่เงินแต่ละวันต่างกันออกไป
ช่วงตลาดสำหรับแต่ละคู่เงินฟอเรก (Market session)
สิ่งแรกก่อนเลือกคู่เงินฟอเรกที่จะเทรดต้องดูช่วงตลาดก่อน เพราะแต่ละช่วงบอกว่าการเทรดคู่เงินนั้นจะเกิดขึ้นช่วงเวลาไหนเป็นหลักของแต่ละวัน การแบ่งช่วงตลาดแบ่งง่ายๆ ด้วยการดูตลาดการเงินโลก เช่นอย่างข้อมูล market sessions จาก forexfactory ให้ท่านสามารถกำหนด timezone เข้ากับบ้านเราได้ ก็แสดงเวลาตลาดการเงินโลกได้ง่ายว่าแต่วันแต่ละช่วงจะเทรดคู่เงินตัวไหน มี 4 ช่วงเวลาคือ
04.00-13.00 ช่วงตลาด Sydney
07.00-16.00 เป็นช่วงตลาด Tokyo
14.00-23.00 เป็นช่วงตลาดยุโรปหรือ London
19.00-04.00 เป็นช่วงตลาด New York หรือบางทีเรียกทั้งช่วง Sydney และ Tokyo เป็นช่วง Asian
โดยแต่ละช่วงเวลาตลาดก็จะเป็นช่วงทำงานของค่าเงินประเทศนั้นๆ เป็นปกติที่ทำให้เกิดการเทรดเกิดขึ้นเช่น Asian ก็จะมีค่าเงินที่เกี่ยวกับ AUD NZD และ JPY ที่จะเกิดโอกาสการเทรดขึ้น เช่น AUDUSD AUDJPY GBPAUD AUDNZD NZDUSD NZDJPY USDJPY GBPJPY เป็นต้น
Forex
Forex
High volatility แต่ละคู่เงินเกิดตอนไหน
เมื่อท่านกำหนดช่วงตลาดเข้าไปกับคู่เงินฟอเรกที่สัมพันธ์กันอย่างเข่น AUDUSD USDJPY และอีกคู่เป็น AUDJPY และ NZDJPY จะเห็นความชัดเจนเรื่องของ volatility ที่เกิดขึ้นแต่ละช่วง Sy = Sydney, To=Tokyo, Ln=London และ Ny= New York จะเห็นว่าคู่เงิน AUDUSD และ USDJPY เพราะมีค่าเงินที่คาบเกี่ยวกับช่วงตลาด volatility เกิดขึ้นเยอะโดยเฉพาะช่วง Asia และ New York แต่พอมาดูคู่ที่เกิดในช่วงตลาดเดียวกันเช่น
AUDJPY และ NZDJPY จะเห็นว่าการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นช่วง Asia เป็นหลัก แต่ต้องไม่ลืมว่าตลาดฟอเรก volatility (volatility เกิดขึ้นเมื่อมีการเข้าเทรดและออกเทรด) แต่ละวันไม่เหมือนกัน แต่เพราะตลาดการเงินโลกหลักนั้นเป็นทางฝั่งยุโรปและอเมริกาเป็นหลัก คู่เงิน forex ที่เกี่ยวกับค่าเงินทางตลาดช่วงนั้นคือ EUR GBP USD เช่น EURUSD GBPUSD USDCHF USDCAD ก็จะมี volatility เกิดขึ้นมาก ยิ่งเป็นช่วงที่ตลาดคาบเกี่ยวกันระหว่างยุโรปและตลาดอเมริกา ก็จะทำให้เกิด volatility เยอะตามมาด้วย
สิ่งที่มีผลกระทบคู่เงิน forex ที่เทรด
หลักๆ สิ่งที่กระทบการเคลื่อนไหวของค่าเงินนั้นๆ ก็จะมาจากข่าว เพราะเกิดการคาดหวัง ความโลภ ความกลัว ของเทรดเดอร์ทั้งที่รอเข้าและรอออก พวกเขาต่างต้องการจะออกเทรดและเข้าเทรดตอนที่มีข่าว เพราะเรื่องของ volatility ที่เกิดขึ้นกับคู่เงินนั้นๆ
การดูข่าวแบบง่ายๆ เลยดูได้จาก forexfactory.com ก็จะมีข่าวแต่ละวันที่กระทบแต่ละคู่เงิน ให้ดูเรื่อง impact หรือระดับผลกระทบต่อเข้า ยกตัวอย่างเช่นข่าว Non-Farm Employment ทุกศุกร์แรกต้นเดือน ก็จะกระทบค่าเงินที่เกี่ยวกับ USD
จะเห็นว่ามี high volatility เกิดเพราะข่าวอย่าง Non-Farm Employment ที่เกี่ยวกับค่าเงิน USD วันที่ 7 มิ. ย ที่ผ่านมา กระทบต่อคู่เงินฟอเรกที่เกี่ยวกับ USD ทั้งหมด EURUSD GBPUSD AUDUSD USDCHF USDCAD USDJPY หลายๆเทรดเดอร์ก็จะมองเป็นโอกาสการเปิดเทรด เพราะมี high volatility เกิดขึ้นตอนนั้น ทำให้ราคาขึ้นหรือลงแล้ว และจบด้วยการวิ่งไกลๆ ด้วยส่วนมาก
เพราะออเดอร์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากเทรดเดอร์ที่รอเทรดอย่างเดียว แต่มาจากเทรดเดอร์ที่ต้องการออกจากการเทรดด้วย โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่ถือ positions ติดลบมานาน ถ้ามีข่าวมาสร้าง volatility ทำให้ราคาวิ่งแรงๆ เกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่อยากทนความเดือดร้อนจากการติดลบอีก ถ้าเห็นตลาดจะวิ่งสวนพวกเขาก็จะมีการกำหนด stop loss เข้าไปเป็นหลัก ถ้าราคาวิ่งไปแตะ stop loss ของเทรดเดอร์พวกนี้ ก็ยิ่งจะทำให้ราคาวิ่งเร็วกว่าเดิมเพราะ stop loss พวกนี้จะกลายเป็น market orders ทันทีที่ราคาตลาดไปแตะ
ช่วงเวลาไหนดีที่จะเทรดแต่ละคู่เงิน
การที่จะหาว่าคู่เงินฟอเรกคู่ไหนเทรดดีที่สุดเวลาไหน อย่างแรกต้องดูเรื่อง market sessions ประกอบ คู่เงินที่เทรดควรจะมีส่วนสัมพันธ์กับค่าเงินนั้นๆ ที่ตลาดเปิด เช่นเมื่อเป็นช่วงตลาด Asia ท่านควรหาคู่เงินที่เกี่ยวกับ AUD NZD JPY เช่น AUDUSD AUDJPY NZDUSD NZDJPY USDJPY GBPAUD GBPJPY พอตลาดยุโรปเปิด ก็มาดูคู่ EUR GBP CHF คือ EURUSD EURJPY GBPUSD GBPJPY GBPCHF CHFJPY และพอมาช่วงตลาดอเมริกาเปิด ก็เทรดคู่เงินที่เกี่ยวกับ USD CAD เช่น EURUSD GBPUSD USDCAD GBPCAD CADJPY เป็นต้น แต่เนื่องจากเรื่องของ volatility ที่เกิดแต่ละวันไม่เหมือนกัน ท่านต้องดูความต่อเนื่องของ volatility ต่อเนื่องกันในแต่ละวันประกอบด้วย พร้อมทั้งดูเรื่องที่มีผลกระทบต่อ volatility แต่ละวันด้วย และอีกอย่างช่วงที่ตลาดทับกัน โดยเฉพาะช่วงตลาดยุโรปและอเมริกา หรือประมาณ 3 ชั่วโมงแรกของตลาดอเมริกาเปิด คู่เงิน forex ที่เกี่ยวข้องกับ USD จะเกิดมี high volatility เกิดขึ้นเกิดทุกวัน
ช่วงที่ตลาดทับกันเป็นระหว่างช่วงตลาด ถือว่าเป็นโอกาสดีสำหรับการเลือกแต่ละคู่เงินสำหรับเทรด แต่แนะนำให้เลือกคู่เงินฟอเรกหลักๆ หรือที่เป็นคู่ Major คือ AUDUSD EURUSD GBPUSD USDCAD USDCHF และ USDJPY พวกคู่พวกนี้จะมีการเข้าเทรดเยอะ เลยทำให้เกิด volatility แต่ละวันเยอะ เมื่อราคาขยับก็ง่ายต่อการเปิดเทรดหรือการออกเทรด
การเลือกคู่เงินเทรดตอนตลาดเปิดดีหรือเปล่า
การเลือกคู่เงินที่เกี่ยวกับตลาดนั้นๆ เปิดเช่น เมื่อตลาด Sydney เลือกเทรด AUD NZD เช่น AUDUSD AUDJPY NZDUSD NZDJPY AUDNZD ให้ดูเรื่อง volatility เป็นหลัก เพราะช่วงเช้าตลาด Asia ถือว่ายังน้อยไม่แนะให้เทรดตอนตลาดเปิด แต่พอก้าวมาถึงตอนตลาดลอนดอนเปิด ที่ถือว่าเป็นตลาดการเงินใหญ่พอๆ กับตลาดอเมริกาเปิด และตั้งแต่ตลาดการเงินช่วง Asia เปิดขึ้นมาก็มีการเข้าเทรดบ้างประปรายทำให้เกิด volatility ขึ้นมาบ้างแล้ว มีหลายๆ เทรดเดอร์นิยมเทรดตอนตลาดลอนดอนเปิดเรียกว่ากลยุทธ์ London Breakout จะเน้นเทรดคู่เงินฟอเรก GBPUSD เป็นหลัก โดยจะเน้นดูว่า 1-3 ชั่วโมงแรกราคามีการเบรคช่วงตลาดก่อนนี้คือ Asia ทางไหน ก็ให้เทรดทางนั้นเป็นหลัก หลักการเทรดคือต้องการเทรด volatility ที่เกิดขึ้นเยอะ ในช่วงเปิดตลาดเมื่อเทียบกับช่วงตลาดที่ผ่านมา เพราะเรื่องวอลลูมการเทรดที่เข้ามา เมื่อเทียบกันก็มักจะทำให้ราคาดันไปทางใดทางหนึ่งได้ตลอดช่วง
Correlation ช่วยในการเทรดคู่เงิน
วิธีการที่แน่นอนและง่ายสุดเมื่อท่านเลือกคู่เงิน forex ที่จะเทรดได้ในการเทรดคือใช้เรื่อง correlation เข้ามาช่วย เพราะเป็นการใช้ชาร์ตยืนยันชาร์ตในการเทรดเช่น อย่างท่านเลือกเทรด EURUSD ช่วงหลักที่น่าเทรดก็จะเป็นช่วงตลาดลอนดอนเปิดและคาบเกี่ยวมาถึงตลาดอเมริกาเปิด โดยเฉพาะช่วงที่ลาดทับกันก็จะเป็นช่วงที่มี volatility มากเกิดขึ้น ถ้าราคาวิ่งไปทางใดทางหนึ่ง
เช่นการเปิดsell ที่ EURUSD วิธีการง่ายสุดคือเปิดชาร์ตที่เกี่ยวกับ USD ขึ้นมา ในที่นี้เปิดชาร์ต Dollar Index ขึ้นมาด้วย ก็ให้ดูจุดที่เปิดเทียบว่ามีโครงสร้างแบบเดียวกับคู่เงินฟอเรกคู่อื่นๆ หรือเปล่าเช่น ใช้ Dollar Index เป็นตัวนำ และมี GBPUSD USDCHF มาเป็นตัวเสริมสำหรับ correlation อีก เพราะถ้าสิ่งเดียวกันเกิดที่ชาร์ตอื่นด้วย บอกว่ามีการเข้าเทรดจริงกับค่าเงินนั้นๆ เกิดขึ้น
หรือเมื่อท่านเลือกเทรดคู่เงิน GBPUSD ท่านก็สามารถใช้หลักการ correlation กับคู่เงินฟอเรกคู่อื่นที่เกี่ยวกับ GBP เพื่อยืนยันการเทรดของท่านได้ ด้วยการเปิดชาร์ตที่เกี่ยวข้องขึ้นมา แล้วก็ดูว่ามีคู่เงินอื่นที่เกี่ยวกับ GBP ที่ price structure เกิดขึ้นลักษณะแบบเดียวกันหรือเปล่า
ทีมงาน : thaiforexbroker.com